xs
xsm
sm
md
lg

กทม.กำชับเขตเร่งจัดทำข้อมูลความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (20 ก.ย.) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร Bangkok Health Emergency Operations Center (ศฉส.กทม. : BHEOC) ครั้งที่ 5/2565 โดยมีคณะกรรมการร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร และการประชุมผ่านระบบทางไกล

ในที่ประชุม สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยได้สรุปสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยรายวัน มีวันละ 400-600 ราย ซึ่งลดลงร้อยละ 50 จากเดิมที่มีผู้ป่วยวันละ 1,000-1,200 รายต่อวัน โดยผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 608 เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ สำนักการแพทย์ได้มีการลดจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อรองรับผู้ป่วยทั่วไปที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยที่จำนวนเตียงของโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 12 แห่ง ยังคงเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยในสถานการณ์ปัจจุบัน (อัตราการครองเตียง 19.85%) จำนวนยาต้านไวรัสทั้ง 3 ชนิด ยังมีความเพียงพอ เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย ซึ่งเป็นการรักษาตามอาการ

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในช่วงนี้ประชาชนอาจมีภาวะทางสุขภาพที่เกิดขึ้นจากปัญหาน้ำท่วม ขอให้สำนักงานเขตมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤต โดยมอบหมายผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตที่กำกับควบคุมด้านการระบายน้ำและการช่วยเหลือประชาชน สื่อสารผ่านนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขต โดยนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานเขตประสานกับสำนักงานประชาสัมพันธ์ในการจัดทำข้อมูล อาทิ การแจ้งเตือนฝนตก จุดบริการรถรับ-ส่ง จุดให้บริการซ่อมรถ จุดน้ำท่วมขัง หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อประสานงานให้ความช่วยเหลือ เป็นต้น เพื่อให้การสื่อสารมีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ขอให้เร่งดำเนินการจัดทำข้อมูลความเสียหายในพื้นที่ของสำนักงานเขตอันเนื่องมาจากน้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ไม่เพียงแต่พื้นที่ 6 แขวง ในเขตลาดกระบัง ที่กรุงเทพมหานครประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมเท่านั้น แต่รวมถึงทุกสำนักงานเขตที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดทำข้อมูลให้พร้อมโดยบันทึกข้อมูลความเสียหายและความต้องการ ซึ่งอาจจะต้องมีการบันทึกข้อมูลระดับน้ำที่วิกฤตบางจุดรวมทั้งระยะเวลา เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องชัดเจนและสามารถนำมาใช้ประกอบการพิจารณาตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น