กรมแผนไทยพัฒนาตำรับยากัญชา “เมตตาโอสถ” จากแบบหยดเป็นแบบแคปซูล ช่วยให้กินยาง่ายขึ้น ได้สารสกัด THC ตามจริง ลดโอกาสผิดพลาดจากการใช้แบบหยด อยู่ระหว่างขั้นตอนเพื่อนำมาใช้จริง ใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย พร้อมวิจัย “รากกัญชา” บดเป็นผงแคปซูล และสกัดเป็นผงฟู่ ใช้ต้านอักเสบ อาการปวด หวังใช้แทนยาแก้ปวดในอนาคต
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. น.ส.ธีราธร สังหร่าย เภสัชกรปฏิบัติการ กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์แผนไทย ว่า กรมฯ มีการพัฒนาน้ำมันกัญชาตำรับเมตตาโอสถ โดยปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น คือ เปลี่ยนจากรูปแบบสาร THC 3 มิลลิกรัมต่อหยด มาเป็นแคปซูลนิ่ม มีสาร THC 3 มิลลิกรัมต่อ 1 แคปซูลนิ่ม บรรจุอยู่ในกล่อง 10 แคปซูลต่อกล่อง ทำให้กินง่ายขึ้นและได้ปริมาณสารสกัดตามจริง ซึ่งการใช้รูปแบบหยดมีโอกาสผิดพลาดในการหยดออกมาใช้ได้ ทั้งนี้ ต้องรอขั้นตอนต่างๆ เพื่อนำมาใช้จริง ขณะนี้ยังไม่สามารถใช้ในรูปแบบแคปซูลนิ่มได้
นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัยการใช้ประโยชน์จากรากกัญชา 2 ส่วน คือ ส่วนแรก นำรากกัญชามาบดเป็นผงและอัดเป็นแคปซูล สามารถรับประทานได้ ส่วนที่สอง นำสารสกัดมาทำให้ในรูปแบบผงฟู่ ด้วยการกลั่นด้วยไอน้ำ ทำให้ทานง่ายขึ้น ประสิทธิภาพของเหลวจะดูดซึมได้ดีกว่าของแข็ง แต่ทั้งสองส่วนยังอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย อย่างรีวิวเปเปอร์เบื้องต้นจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่เบื้องต้น คือ ใช้ต้านการอักเสบ อาการปวด บำรุงร่างกาย
“ทั้งหมดเป็นงานวิจัยเพื่อให้เห็นว่า รากกัญชายังใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ โดยการศึกษาวิจัยมีทั้งส่วนการรักษาและเสริมสร้างสุขภาพด้วย แต่ทั้งหมดต้องอยู่ที่แพทย์วินิจฉัยว่า ควรใช้อย่างไร ซึ่งอาจจะสามารถใช้แทนยาแก้ปวดในอนาคตได้ ลดการใช้ยาโดยไม่จำเป็น ประกอบกับตัวรากกัญชายังพบว่า ไม่มีสาร THC เหมาะกับคนที่ไม่สามารถใช้ THC ได้ เมื่อผลวิจัยชัดเจนจะนำไปสู่การศึกษาวิจัยในมนุษย์ต่อไป” น.ส.ธีราธร กล่าว
ด้าน น.ส.โชติกา แหร่มบรรเทิง แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน กล่าวว่า ปัจจุบันมีคลินิกกัญชาทางแพทย์แผนไทยตั้งแต่ปี 2562 มีตำรับสูตรอาจารย์เดชา ส่วนสูตรเมตตาโอสถใช้ในผู้ป่วยมะเร็งระยะ 3 และ 4 ที่มีอาการคลื่นไส้ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร การรักษาจะมีแพทย์ซักประวัติ ซึ่งจะให้คนไข้เตรียมพร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อน และคนไข้ควรมาเอง หากมาได้ ไม่ได้ติดเตียง ต้องพกยาประจำตัวมาด้วย และต้องบอกรายละเอียดอาการ หรือมีโรคประจำตัวอย่างไร เนื่องจากจะมีการซักประวัติอย่างละเอียด ที่สำคัญต้องเอาประวัติการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันมาด้วยเพื่อพิจารณาการรักษาควบคู่กัน อย่างหากคนไข้เป็นมะเร็งและต้องใช้คีโม จะต้องแจ้งแพทย์แผนไทย เพื่อให้หยุดใช้ยาแพทย์แผนไทยช่วงนั้น จนกว่าจะใช้คีโมจนเสร็จและร่างกายแข็งแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่รักษาด้วยแพทย์แผนไทยที่มีตำรับกัญชา มีผู้ป่วยมีอาการแพ้หรือไม่ น.ส.โชติกา กล่าวว่า ไม่พบคนไข้รายใดแพ้กัญชา โดยการใช้ในผู้ป่วยแรกๆ จะให้ใช้ก่อนและยังไม่ให้กลับบ้าน ให้สังเกตอาการประมาณ 45 นาที หากไม่มีอาการใดๆ สามารถกลับบ้านได้ แต่กรณีคนไข้เก่ารับยาต่อเนื่อง อาการคงที่ ไม่แย่ลงก็กลับบ้านได้เลย คนไข้ส่วนใหญ่ที่มาจะเป็นโรคเรื้อรัง โรคมะเร็ง พาร์กินสัน ลมชัก เป็นต้น ส่วนคนทำงานก็จะมาด้วยอาการนอนไม่หลับ ก็จะมีการรักษาตรงนี้ด้วยเช่นกัน