ยอดโควิด 7 วัน ประเทศไทย 1.41 แสนราย ขยับขึ้นอันดับ 8 ของโลก วันนี้รายงานเพิ่ม 1.68 หมื่นราย หายป่วยมากกว่า 2.49 หมื่นราย เหลือรักษาไม่ถึง 2 แสนราย แต่ป่วยหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจยังเพิ่ม วันนี้ดับนิวไฮ 129 ราย มาจากอีสาน 34 ราย กทม. 22 ราย ติดเชื้อต่ำกว่าร้อยรายเพิ่มขึ้น 33 จังหวัด
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,891 ราย สะสม 4,063,844 ราย หายป่วย 24,927 ราย สะสม 3,839,360 ราย เสียชีวิต 129 ราย สะสม 27,135 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 197,349 ราย อยู่ใน รพ. 51,297 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 146,052 ราย มีอาการหนัก 2,104 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 940 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 25.9% สำหรับการติดเชื้อช่วง 7 วันที่ผ่านมาประเทศอยู่ที่ 141,081 ราย ขยับขึ้นอันดับ 8 ของโลก
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 129 ราย มาจาก 43 จังหวัด กทม.เสียชีวิตสูงสุด 27 ราย ตามด้วยนครราชสีมา 6 ราย, ปทุมธานี อุบลราชธานี มหาสารคาม จังหวัดละ 5 ราย, สมุทรปราการ เลย กำแพงเพชร นครศรีธรรมราช ชุมพร กาญจนบุรี จังหวัดละ 4 ราย ที่เหลือเสียชีวิตจังหวัดละ 1-3 ราย โดยตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิตสูงสุด 34 ราย ภาคกลางและตะวันออก 27 ราย ภาคเหนือ 15 ราย ปริมณฑล 13 ราย และภาคใต้ 13 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 72 ราย หญิง 57 ราย อายุ 10-98 ปี เฉลี่ย 73 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 97%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,282 ราย 2. ชลบุรี 650 ราย 3. ขอนแก่น 594 ราย 4. สมุทรปราการ 527 ราย 5. นครศรีธรรมราช 514 ราย 6. สมุทรสาคร 469 ราย 7. นนทบุรี 459 ราย 8. บุรีรัมย์ 445 ราย 9. ศรีสะเกษ 396 ราย และ 10. นครปฐม 384 ราย สำหรับจังหวัดติดเชื้อเกิน 300 ราย มีอีก 5 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา 369 ราย, สงขลา 337 ราย ระยอง 325 ราย, ร้อยเอ็ด 317 ราย และ นครราชสีมา 301 ราย
จังหวัดติดเชื้อระดับ 200 ราย ลดลงจาก 14 จังหวัด เหลือ 12 จังหวัด ส่วนจังหวัดติดเชื้อระดับ 100 ราย ลดลงจาก 21 จังหวัด เป็น 16 จังหวัด และจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย เพิ่มขึ้นจาก 27 จังหวัด เป็น 33 จังหวัด จำนวนนี้มีจังหวัดที่ติดเชื้อน้อยไม่ถึง 20 ราย 7 จังหวัด ได้แก่ สตูล 20 ราย, ชัยนาท 15 ราย, ยะลา 15 ราย, แม่ฮ่องสอน 12 ราย, นราธิวาส 10 ราย, เชียงราย 5 ราย และลำพูน 1 ราย
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 19 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 85 ราย ใน 28 ประเทศ โดยมาจากออสเตรเลียมากที่สุด 12 ราย เยอรมนี 10 ราย แอฟริกาใต้ 8 ราย อังกฤษ 7 ราย สิงคโปร์ 5 ราย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ประเทศละ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 76 ราย แซนด์บ็อกซ์ 8 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 1 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-18 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 253,098 คน รายงานติดเชื้อ 1,188 คน คิดเป็น 0.47% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 239,505 คน ติดเชื้อ 1,027 คน คิดเป็น 0.43% แซนด์บ็อกซ์ 11,207 คน ติดเชื้อ 116 คน คิดเป็น 1.04% และกักตัว 2,386 คน ติดเชื้อ 45 คน คิดเป็น 1.89%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 จำนวน 17,642 โดส สะสม 131,707,883 โดส เป็นเข็มแรก 56,011,444 ราย คิดเป็น 80.5% เข็มสอง 50,678,940 ราย คิดเป็น 72.9% และเข็ม 3 ขึ้นไป 25,017,499 ราย คิดเป็น 36%