ไทยติดเชื้อโควิดสะสมทะลุ 4 ล้านราย วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 1.88 หมื่นราย ดับยังนิวไฮ 125 ราย พบเด็ก 1 ขวบ ทวด 102 ปี ดับด้วย ภาคกลาง ตายสูงสุด 44 ราย พบระลอกโอมิครอนตายสะสมแล้ว 5 พันราย อัตราเสียชีวิต 0.28% รักษาใน รพ.ต่ำกว่า 6 หมื่นราย อาการหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจ ยังขึ้นๆ ลงๆ อัตราครองเตียง 26.7% ภาพรวม 11 จังหวัดติดเชื้อสูงสุดยอดเกิน 400 ราย ฉีดวัคซีนเพิ่มได้ 2.1 หมื่นโดส
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,892 ราย สะสม 4,012,184 ราย หายป่วย 22,220 ราย สะสม 3,763,978 ราย เสียชีวิต 125 ราย สะสมระลอกโอมิครอน 5,056 ราย อัตราเสียชีวิต 0.28% สะสมตั้งแต่ระลอกแรก 26,754 ราย อัตราเสียชีวิต 0.67% อยู่ระหว่างการรักษา 221,452 ราย อยู่ใน รพ. 59,899 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 161,553 ราย มีอาการหนัก 2,062 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 867 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 26.7%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 125 ราย มาจาก 46 จังหวัด กทม.เสียชีวิตสูงสุด 10 ราย ตามด้วยชลบุรี 7 ราย ร้อยเอ็ด แพร่ ระยอง นครสวรรค์ จังหวัดละ 5 ราย สมุทรปราการ ปทุมธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ สุพรรณบุรี จังหวัดละ 4 ราย ที่เหลือเสียชีวิตจังหวัดละ 1-3 ราย โดยภาคกลางและตะวันออก เสียชีวิตสูงสุด 44 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 32 ราย ภาคเหนือ 18 ราย ปริมณฑล 11 ราย และภาคใต้ 10 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 75 ราย หญิง 50 ราย อายุ 1-102 ปี เฉลี่ย 76 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 94%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,015 ราย 2. ชลบุรี 765 ราย 3. สมุทรปราการ 645 ราย 4. นครราชสีมา 632 ราย 5. สมุทรสาคร 546 ราย 6. บุรีรัมย์ 507 ราย 7. นครศรีธรรมราช 450 ราย 8. อุบลราชธานี 435 ราย 9. กาญจนบุรี 420 ราย และ 10. ร้อยเอ็ด 412 ราย สำหรับจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 400 ราย ขึ้นไปยังมีอีก 1 จังหวัดคือ ขอนแก่น 405 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อเกิน 300 ราย มี 12 จังหวัด คือ ปทุมธานี 387 ราย, สุรินทร์ 380 ราย, นครปฐม 372 ราย, นนทบุรี 363 ราย, เลย 361 ราย, ฉะเชิงเทรา 346 ราย, อุดรธานี 345 ราย, พระนครศรีอยุธยา 333 ราย, มหาสารคาม 328 ราย, ระยอง 317 ราย, เชียงใหม่ 309 ราย และ ศรีสะเกษ 308 ราย
ติดเชื้อเกิน 200 ราย มี 11 จังหวัด คือ สกลนคร 289 ราย, พิษณุโลก 276 ราย, ปราจีนบุรี 272 ราย, ลำปาง 254 ราย, สุพรรณบุรี 252 ราย, สงขลา 244 ราย, หนองคาย 244 ราย, ราชบุรี 217 ราย, กาฬสินธุ์ 214 ราย, สุโขทัย 204 ราย และกำแพงเพชร 202 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อเกิน 100 ราย มี 16 จังหวัด และจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 19 จังหวัด ได้แก่ 26 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ถึง 10 จังหวัด โดยลำพูน รายงานน้อยที่สุด 1 ราย
สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 11 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 82 ราย ใน 21 ประเทศ โดยมาจากอังกฤษมากที่สุด 14 ราย ซาอุดิอาระเบีย 12 ราย สิงคโปร์ 9 ราย กัมพูชา ออสเตรเลีย เยอรมนี ประเทศละ 8 ราย มาเลเซีย อินเดีย ประเทศละ 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 61 ราย แซนด์บ็อกซ์ 4 ราย กักตัว 8 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 9 ราย จากกัมพูชา 8 ราย เมียนมา 1 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-15 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 206,828 คน รายงานติดเชื้อ 960 คน คิดเป็น 0.46% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 194,789 คน ติดเชื้อ 820 คน คิดเป็น 0.42% แซนด์บ็อกซ์ 10,015 คน ติดเชื้อ 97 คน คิดเป็น 0.97% และกักตัว 2,024 คน ติดเชื้อ 43 คน คิดเป็น 2.12%
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2565 จำนวน 21,007 โดส สะสม 131,652,372 โดส เป็นเข็มแรก 56,002,319 ราย คิดเป็น 80.5% เข็มสอง 50,670,905 ราย คิดเป็น 72.8% และเข็ม 3 ขึ้นไป 24,979,148 ราย คิดเป็น 35.9%
