ยอดโควิดยังสูงเกือบ 2.5 หมื่นราย พบ 14 จังหวัด ติดเชื้อเกิน 500 ราย“นนทบุรี” กลับมาพุ่งเกินพันราย ส่วนหลายจังหวัดเริ่มมีติดเชื้อลดลง พบติดเชื้อต่ำกว่าร้อยเพิ่มมาเป็น 17 จังหวัด ส่วนดับยังสูง 97 ราย วันนี้เด็กเล็ก 4 เดือนดับ สูงอายุ 106 ปี
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 59 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 24,892 ราย สะสม 3,736,487 ราย หายป่วย 27,254 ราย สะสม 3,454,308 ราย เสียชีวิต 97 ราย สะสม 25,512 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 256,667 ราย อยู่ใน รพ. 63,348 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 193,319 ราย มีอาการหนัก 1,859 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 769 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 29.4%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 97 ราย มาจาก 39 จังหวัด ได้แก่ กทม. 8 ราย, ลพบุรี 6 ราย, เชียงใหม่ ชลบุรี จังหวัดละ 5 ราย, สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี จังหวัดละ 4 ราย, ชัยภูมิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุโขทัย พิษณุโลก พัทลุง ราชบุรี ระยอง จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม ปทุมธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร พิจิตร สุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา ตราด จังหวัดละ 2 ราย และ อุดรธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ เชียงราย กำแพงเพชร กระบี่ ตรัง ยะลา ปัตตานี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 53 ราย หญิง 44 ราย อายุ 4 เดือน - 106 ปี เฉลี่ย 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 97%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,321 ราย 2. ชลบุรี 1,448 ราย 3. นนทบุรี 1,127 ราย 4. นครศรีธรรมราช 955 ราย 5. สมุทรปราการ 907 ราย 6. สมุทรสาคร 805 ราย 7. ขอนแก่น 666 ราย 8. สงขลา 581 ราย 9. ราชบุรี 573 ราย และ 10. ร้อยเอ็ด 567 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 500 รายขึ้นไปยังมีอีก 4 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา 555 ราย, บุรีรัมย์ 541 ราย, นครราชสีมา 539 ราย และ ระยอง 532 ราย ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 22 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม 94 ราย, อุทัยธานี 93 ราย, ชุมพร 88 ราย, ปัตตานี 86 ราย, สตูล 81 ราย, พังงา 80 ราย, แพร่ 78 ราย, อำนาจเจริญ 74 ราย, พิจิตร 73 ราย, มุกดาหาร 71 ราย, ตาก 68 ราย, ยะลา 66 ราย, น่าน 57 ราย, หนองบัวลำภู 50 ราย, นราธิวาส 46 ราย, นครนายก 44 ราย, พะเยา 44 ราย, แม่ฮ่องสอน 36 ราย, เชียงราย 26 ราย, อุตรดิตถ์ 16 ราย, ชัยนาท 12 ราย และ ลำพูน 1 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 20 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 46 ราย ใน 19 ประเทศ โดยมาจากอังกฤษมากที่สุด 11 ราย อิสราเอล กัมพูชา ประเทศละ 6 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 35 ราย แซนด์บ็อกซ์ 2 ราย กักตัว 7 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 2 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-3 เม.ย. 2565 มีผู้เดินทาง 39,067 คน รายงานติดเชื้อ 102 คน คิดเป็น 0.26% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 36,515 คน ติดเชื้อ 85 คน คิดเป็น 0.23% แซนด์บ็อกซ์ 2,186 คน ติดเชื้อ 11 คน คิดเป็น 0.5% และกักตัว 366 คน ติดเชื้อ 6 คน คิดเป็น 1.64%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 3 เม.ย. ฉีดได้ 85,734 โดส สะสมรวม 130,139,978 โดส เป็นเข็มแรก 55,692,042 ราย คิดเป็น 80.1% ของประชากร เข็มสอง 50,387,921 ราย คิดเป็น 72.4% ของประชากร และเข็มสาม 24,060,015 ราย คิดเป็น 34.6% ของประชากร