ยอดโควิดยังสูง 2.8 หมื่นรายต่อเนื่องอีกวัน เหตุมี 20 จังหวัดติดเชื้อเกิน 500 รายขึ้นไป ส่วนติดเชื้อไม่ถึงร้อยรายมี 16 จังหวัด“ลำพูน” ต่ำสุด 2 ราย ยอดดับนิวไฮอีกวัน 96 ราย ทวด 105 ปี เสียชีวิต เริ่มวันแรกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศ มีคนเดินทางรวม 1.16 หมื่นคน เจอติดเชื้อ 28 คน คิดเป็น 0.28% ฉีดวัคซีนเข็มแรกทะลุ 80% แล้ว
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 57 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 28,029 ราย สะสม 3,684,755 ราย หายป่วย 23,352 ราย สะสม 3,403,642 ราย เสียชีวิต 96 ราย สะสม 25,318 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 255,795 ราย อยู่ใน รพ. 64,943 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 190,852 ราย มีอาการหนัก 1,827 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 735 ราย อัตราครองเตียงสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 29.9%
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 96 ราย มาจาก 42 จังหวัด ได้แก่ กทม. 13 ราย, เชียงราย 5 ราย, สมุทรปราการ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช ชลบุรี จังหวัดละ 4 ราย, สุราษฎร์ธานี กระบี่ พัทลุง ปัตตานี ระยอง จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม สกลนคร ยโสธร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ตราด ลพบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ สมุทรสงคราม สระบุรี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 2 ราย และ สมุทรสาคร นครราชสีมา ชัยภูมิ อุดรธานี มุกดาหาร ลำปาง แพร่ พิจิตร เพขรบูรณ์ ภูเก็ต สตูล สงขลา ยะลา อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี และกาญจนบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 61 ราย หญิง 35 ราย อายุ 26-105 ปี เฉลี่ย 77 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 99%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,373 ราย 2. ชลบุรี 1,507 ราย 3. นครศรีธรรมราช 1,128 ราย 4. สมุทรสาคร 936 ราย 5. สมุทรปราการ 930 ราย 6. สงขลา 762 ราย 7. ฉะเชิงเทรา 735 ราย 8. นครปฐม 688 ราย 9. พระนครศรีอยุธยา 665 ราย และ 10. ขอนแก่น 652 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 500 รายขึ้นไปยังมีอีก 10 จังหวัด คือ ระยอง 645 ราย, ราชบุรี 635 ราย, ปทุมธานี 603 ราย, บุรีรัมย์ 576 ราย, นครราชสีมา 556 ราย, อุดรธานี 550 ราย, ร้อยเอ็ด 549 ราย, นนทบุรี 538 ราย, สุพรรณบุรี 523 ราย และ ศรีสะเกษ 500 ราย ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 16 จังหวัด ได้แก่ นครพนม 97 ราย, พังงา 94 ราย, อำนาจเจริญ 93 ราย, พิจิตร 83 ราย, นราธิวาส 79 ราย, มุกดาหาร 79 ราย, หนองบัวลำภู 78 ราย, แพร่ 75 ราย, ยะลา 73 ราย, อุตรดิตถ์ 69 ราย, ปัตตานี 63 ราย, แม่ฮ่องสอน 59 ราย, พะเยา 57 ราย, ชัยนาท 52 ราย, เชียงราย 16 ราย และ ลำพูน 2 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 79 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 36 ราย ใน 14 ประเทศ โดยมาจากซาอุดีอาระเบียมากที่สุด 8 ราย กัมพูชา 6 ราย เยอรมนี 5 ราย ออสเตรเลีย 4 ราย ที่เหลือติดเชื้อประเทศละ 1-3 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 19 ราย แซนด์บ็อกซ์ 3 ราย กักตัว 12 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 2 ราย จากเมียนมา สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565 ซึ่งเริ่มยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศเป็นวันแรก มรผู้เดินทาง 11,684 คน รายงานติดเชื้อ 28 คน คิดเป็น 0.24% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 10,922 คน ติดเชื้อ 19 คน คิดเป็น 0.17% แซนด์บ็อกซ์ 629 คน ติดเชื้อ 3 คน คิดเป็น 0.84% และกักตัว 133 คน ติดเชื้อ 6 คน คิดเป็น 4.51%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 1 เม.ย. ฉีดได้ 325,326 โดส สะสมรวม 129,877,792 โดส เป็นเข็มแรก 55,627,456 ราย คิดเป็น 80% ของประชากร เข็มสอง 50,355,443 ราย คิดเป็น 72.4% ของประชากร และเข็มสาม 23,894,893 ราย คิดเป็น 34.4% ของประชากร