โควิดไทยยังทรงตัว ติดเชื้อใหม่ รักษาหายใกล้กัน 2.3 หมื่นราย หายป่วยสะสมแล้ว 3 ล้านราย ตายยังพุ่ง 70 ราย ปอดอักเสบ 1.4 พันราย ใส่ท่อช่วยหายใจทะลุ 500 ราย ภาพรวม 60 จังหวัด ยังติดเชื้อเกินร้อยราย ติดเชื้อจากต่างประเทศน้อยลง
เมื่อวันที่ 16 มี.ค ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 40 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 23,945 ราย สะสม 3,250,642 ราย หายป่วย 23,339 ราย สะสม 3,004,752 ราย เสียชีวิต 70 ราย สะสม 23,918 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 221,972 ราย อยู่ใน รพ. 63,380 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 158,592 ราย มีอาการหนัก 1,401 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 507 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 70 ราย มาจาก 34 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด ตาก สุราษฎร์ธานี ตราด จังหวัดละ 4 ราย, สมุทรปราการ กำแพงเพชร จันทบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี จังหวัดละ 3 ราย, กทม. นครปฐม ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุดรธานี ชัยภูมิ เลย พังงา กระบี่ ปัตตานี กาญจนบุรี นครนายก สระแก้ว ระยอง จังหวัดละ 2 ราย และ สมุทรสาคร สกลนคร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี เชียงใหม่ แพร่ นครศรีธรรมราช ชุมพร สตูล ชลบุรี และเพชรบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 34 ราย หญิง 36 ราย อายุ 1-98 ปี เฉลี่ย 73 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 99%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 3,457 ราย 2. นครศรีธรรมราช 1,440 ราย 3. ชลบุรี 1,320 ราย 4. สมุทรปราการ 886 ราย 5. สมุทรสาคร 678 ราย 6. ฉะเชิงเทรา 617 ราย 7. ราชบุรี 554 ราย 8. พระนครศรีอยุธยา 548 ราย 9. สงขลา 500 ราย และ 10. ปทุมธานี 473 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 50 จังหวัด คือ ขอนแก่น 469 ราย, นนทบุรี 417 ราย, นครราชสีมา 399 ราย, นครปฐม 395 ราย, ร้อยเอ็ด 391 ราย, ภูเก็ต 386 ราย, ระยอง 371 ราย, สุพรรณบุรี 366 ราย, กาญจนบุรี 363 ราย, มหาสารคาม 360 ราย, บุรีรัมย์ 349 ราย, เพชรบุรี 334 ราย, พัทลุง 331 ราย, ปราจีนบุรี 323 ราย, เชียงใหม่ 302 ราย, สตูล 298 ราย, จันทบุรี 285 ราย, อุดรธานี 272 ราย, สุรินทร์ 271 ราย, กาฬสินธุ์ 268 ราย, สมุทรสงคราม 264 ราย, ปัตตานี 260 ราย, สระแก้ว 260 ราย, อุบลราชธานี 254 ราย, นครสวรรค์ 245 ราย, สระบุรี 242 ราย, ศรีสะเกษ 228 ราย, สุราษฎร์ธานี 209 ราย, นราธิวาส 201 ราย
ระนอง 196 ราย, พิษณุโลก 190 ราย, ชุมพร 187 ราย, ตาก 187 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 185 ราย, ยะลา 176 ราย, กระบี่ 166 ราย, หนองคาย 160 ราย, สุโขทัย 159 ราย, ลำปาง 152 ราย, ตราด 149 ราย, ชัยภูมิ 134 ราย, นครนายก 133 ราย, เลย 129 ราย, เพชรบูรณ์ 123 ราย, อ่างทอง 122 ราย, หนองบัวลำภู 117 ราย, ยโสธร 115 ราย, กำแพงเพชร 111 ราย, ลพบุรี 103 ราย และอุตรดิตถ์ 103 ราย ทั้งนี้ มีจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วยมีจังหวัดเดียว คือ ลำพูน 3 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 155 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 48 ราย ใน 27 ประเทศ ส่วนใหญ่ติดเชื้อประเทศละ 1-4 ราย โดยเข้าระบบ Test&Go 34 ราย แซนด์บ็อกซ์ 5 ราย ระบบกักตัว 6 ราย และลักลอบเข้ามา 3 ราย จากกัมพูชา 1 ราย และเมียนมา 2 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-15 มี.ค. 2565 จำนวน 125,201 ราย รายงานติดเชื้อ 1,018 ราย คิดเป็น 0.81% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 109,059 ราย ติดเชื้อ 666 ราย คิดเป็น 0.61% แซนด์บ็อกซ์ 13,983 ราย ติดเชื้อ 304 ราย คิดเป็น 2.17% และกักตัว 2,159 ราย ติดเชื้อ 48 ราย คิดเป็น 2.22%
การฉีดวัคซีนโควิด-19 วันที่ 15 มี.ค. ฉีดได้ 163,264 โดส สะสมรวม 126,431,235 โดส เป็นเข็มแรก 54,518,641 ราย คิดเป็น 78.4% ของประชากร เข็มสอง 50,018,994 ราย คิดเป็น 71.9% ของประชากร และเข็มสาม 21,893,600 ราย คิดเป็น 31.5% ของประชากร