xs
xsm
sm
md
lg

ติดเชื้อระลอก “โอมิครอน” ทะลุ 1 ล้านราย ดับยังสูง 70 ราย 12 จว.ยังติดเชื้อเกิน 400 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยอดโควิดรายใหม่ต่ำกว่า 2 หมื่นราย ยอดสะสมระลอกโอมิครอนตั้งแต่ 1 ม.ค. ทะลุ 1 ล้านรายแล้ว เสียชีวิตยังสูง 70 ราย มาจาก กทม.ถึง 13 ราย ภาพรวม 12 จังหวัดติดเชื้อมากกว่า 400 ราย ติดเชื้อหลักหน่วยมีแค่แม่ฮ่องสอนและลำพูน ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มทะลุ 50 ล้านคน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 39 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 19,742 ราย สะสม 3,226,697 ราย หากนับเฉพาะการระบาดระลอกโอมิครอนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 สะสมแล้ว 1,003,262 ราย หายป่วย 24,125 ราย สะสม 2,981,413 ราย เสียชีวิต 70 ราย สะสม 23,848 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 221,436 ราย อยู่ใน รพ. 60,434 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 161,002 ราย มีอาการหนัก 1,390 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 476 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 70 ราย มาจาก 29 จังหวัด ได้แก่ กทม. 13 ราย, ชลบุรี 7 ราย, ปทุมธานี ภูเก็ต จังหวัดละ 4 ราย, สมุทรปราการ สมุทรสาคร อุบลราชธานี ปัตตานี กระบี่ จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม บุรีรัมย์ เชียงราย พัทลุง ราชบุรี ลพบุรี ระยอง จังหวัดละ 2 ราย และ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น สกลนคร ตาก แพร่ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช นราธิวาส สิงห์บุรี สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี และกาญจนบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 38 ราย หญิง 32 ราย อายุ 33-98 ปี เฉลี่ย 77 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 97%

ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ 1. กทม. 2,904 ราย 2. นครศรีธรรมราช 1,235 ราย 3. ชลบุรี 888 ราย 4. สมุทรปราการ 814 ราย 5. สมุทรสาคร 593 ราย 6. พระนครศรีอยุธยา 574 ราย 7. นครราชสีมา 569 ราย 8. นนทบุรี 541 ราย 9. นครปฐม 464 ราย และ 10. ปทุมธานี 446 ราย

สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 43 จังหวัด คือ ระยอง 437 ราย, ฉะเชิงเทรา 421 ราย, ภูเก็ต 405 ราย, ขอนแก่น 390 ราย, บุรีรัมย์ 372 ราย, พัทลุง 357 ราย, ร้อยเอ็ด 348 ราย, ราชบุรี 307 ราย, สงขลา 299 ราย, กาญจนบุรี 286 ราย, เชียงใหม่ 276 ราย, อุบลราชธานี 268 ราย, สระบุรี 255 ราย, สุรินทร์ 243 ราย, สุราษฎร์ธานี 242 ราย, ปัตตานี 232 ราย, สุพรรณบุรี 228 ราย, อุดรธานี 218 ราย, สมุทรสงคราม 215 ราย, ปราจีนบุรี 210 ราย, สกลนคร 202 ราย

ศรีสะเกษ 197 ราย, สตูล 186 ราย, ระนอง 185 ราย, จันทบุรี 173 ราย, พิษณุโลก 160 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 155 ราย, นครสวรรค์ 152 ราย, สระแก้ว 151 ราย, ยะลา 148 ราย, หนองคาย 147 ราย, ชุมพร 145 ราย, กระบี่ 142 ราย, นราธิวาส 142 ราย, เพชรบุรี 142 ราย, มหาสารคาม 137 ราย, กาฬสินธุ์ 135 ราย, เลย 127 ราย, สุโขทัย 125 ราย, กำแพงเพชร 123 ราย, ตาก 123 ราย, เพชรบูรณ์ 121 ราย และ ยโสธร 108 ราย ทั้งนี้ มีจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วยมี 2 จังหวัด คือ แม่ฮ่องสอน 7 ราย และ ลำพูน 2 ราย

ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 54 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 52 ราย ใน 23 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น เยอรมนี 7 ราย, กัมพูชา ฝรั่งเศส ประเทศละ 6 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ ประเทศละ 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 27 ราย แซนด์บ็อกซ์ 15 ราย ระบบกักตัว 9 ราย และลักลอบเข้ามา 1 ราย สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-14 มี.ค. 2565 จำนวน 117,996 ราย รายงานติดเชื้อ 976 ราย คิดเป็น 0.83% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 102,345 ราย ติดเชื้อ 632 ราย คิดเป็น 0.62% แซนด์บ็อกซ์ 13,605 ราย ติดเชื้อ 299 ราย คิดเป็น 2.2% และกักตัว 2,046 ราย ติดเชื้อ 45 ราย คิดเป็น 2.2%

การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 14 มี.ค. ฉีดได้ 109,592 โดส สะสมรวม 126,267,971 โดส เป็นเข็มแรก 54,453,850 ราย คิดเป็น 78.3% ของประชากร เข็มสอง 50,002,849 ราย คิดเป็น 71.9% ของประชากร และเข็มสาม 21,811,272 ราย คิดเป็น 31.4% ของประชากร


กำลังโหลดความคิดเห็น