ติดเชื้อเกินร้อยรายพุ่งไม่หยุด รวม 47 จังหวัด กทม.-ชลบุรี-สมุทรปราการ เกินพันราย ดันยอดนิวไฮเกือบ 2.5 หมื่นราย ป่วยหนัก เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตาม เศร้าทารก 3 เดือน สูงอายุ 104 ปี ดับจากโควิด
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 21 นับจากการระบาดระลอก 1 ม.ค. 2565 โดยรายงานติดเชื้อ 24,932 ราย สะสม 2,819,282 ราย หายป่วย 15,774 ราย สะสม 2,606,363 ราย เสียชีวิต 41 ราย สะสม 22,809 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 190,110 ราย อยู่ใน รพ. 77,600 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 112,510 ราย มีอาการหนัก 931 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 254 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 41 ราย มาจาก 26 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 5 ราย , สิงห์บุรี 3 ราย , ปทุมธานี สมุทรปราการ ขอนแก่น เชียงใหม่ ลำปาง พัทลุง ชลบุรี สระแก้ว สุพรรณบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ กทม. นครปฐม สมุรสาคร นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ตาก นครสวรรค์ ยะลา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ลพบุรี และสระบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 20 ราย หญิง 21 ราย อายุ 3 เดือน - 104 ปี เฉลี่ย 75 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 97% ส่วนเด็กอายุ 3 เดือน ไม่มีโรคประจำตัว
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 3,285 ราย 2.ชลบุรี 1,419 ราย 3.สมุทรปราการ 1,128 ราย 4.นครศรีธรรมราช 911 ราย 5.นนทบุรี 775 ราย 6.ราชบุรี 738 ราย 7.สมุทรสาคร 716 ราย 8.ภูเก็ต 684 ราย 9.นครปฐม 649 ราย และ 10.นครราชสีมา 644 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 47 จังหวัด คือ ระยอง 600 ราย , ปทุมธานี 586 ราย , พระนครศรีอยุธยา 493 ราย , บุรีรัมย์ 465 ราย , ชัยภูมิ 461 ราย , สุพรรณบุรี 454 ราย , ฉะเชิงเทรา 449 ราย , ขอนแก่น 418 ราย , สุราษฎร์ธานี 344 ราย , สุรินทร์ 326 ราย , สงขลา 316 ราย , ปราจีนบุรี 293 ราย , เชียงใหม่ 284 ราย , มหาสารคาม 282 ราย , ร้อยเอ็ด 282 ราย , เพชรบุรี 274 ราย , สระบุรี 266 ราย , นครสวรรค์ 257 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 257 ราย , อุบลราชธานี 249 ราย , กาญจนบุรี 245 ราย ,
กำแพงเพชร 238 ราย , ชุมพร 230 ราย , ยะลา 218 ราย , พัทลุง 217 ราย , กาฬสินธุ์ 210 ราย , เพชรบูรณ์ 207 ราย , สุโขทัย 201 ราย , จันทบุรี 198 ราย , อุตรดิตถ์ 192 ราย , กระบี่ 190 ราย , ปัตตานี 189 ราย , ลพบุรี 189 ราย , สมุทรสงคราม 188 ราย , สตูล 182 ราย , พิษณุโลก 180 ราย , อุดรธานี 169 ราย , หนองคาย 168 ราย , อ่างทอง 164 ราย , นครพนม 159 ราย , นครนายก 150 ราย , ตาก 143 ราย , ศรีสะเกษ 125 ราย , หนองบัวลำภู 125 ราย , ยโสธร 118 ราย , น่าน 109 ราย และตรัง 107 ราย ส่วนจังหวัดติดเชื้อหลักหน่วยมี 1 จังหวัดคือ ลำพูน 8 ราย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 201 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 167 ราย ใน 33 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 30 ราย , ซาอุดิอาระเบีย 29 ราย , กัมพูชา เมียนมา ไม่ระบุประเทศ อย่างละ 11 ราย , เยอรมนี 8 ราย , เอสโตเนีย 6 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 98 ราย แซนด์บ็อกซ์ 46 ราย ระบบกักตัว 12 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 11 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-24 ก.พ. 2565 จำนวน 165,753 ราย รายงานติดเชื้อ 4,013 ราย คิดเป็น 2.48% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 105,803 ราย ติดเชื้อ 1,233 ราย คิดเป็น 1.17% แซนด์บ็อกซ์ 51,788 ราย ติดเชื้อ 2,629 ราย คิดเป็น 5.08% และกักตัว 8,162 ราย ติดเชื้อ 241 ราย คิดเป็น 2.95%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 24 ก.พ. ฉีดได้ 305,763 โดส สะสมรวม 122,779,134 โดส เป็นเข็มแรก 53,357,481 ราย คิดเป็น 76.7% ของประชากร เข็มสอง 49,622,858 ราย คิดเป็น 71.3% ของประชากร และเข็มสาม 19,798,795 ราย คิดเป็น 28.5% ของประชากร