47 จังหวัดติดเชื้อเกินร้อยราย ยอดติดเชื้อใหม่ยังคงตัว 1.8 หมื่นราย ดับสูง 35 ราย เป็นสูงอายุ มีโรคประจำตัวทั้งหมด กำลังรักษา 1.69 แสนราย ยอดป่วยหนักยังมีแนวโน้มสูงขึ้น 827 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 214 ราย
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ถึงหลักหมื่นรายเป็นวันที่ 18 นับจากการระบาดระลอก 1 ม.ค. 2565 โดยรายงานติดเชื้อ 18,363 ราย สะสม 2,749,561 ราย หายป่วย 15,651 ราย สะสม 2,557,796 ราย เสียชีวิต 35 ราย สะสม 22,691 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 169,074 ราย มีอาการหนัก 827 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 214 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 35 ราย มาจาก 18 จังหวัด ได้แก่ กทม.สูงสุด 8 ราย, เชียงใหม่ 4 ราย, ร้อยเอ็ด ระยอง จังหวัดละ 3 ราย, บึงกาฬ กระบี่ ภูเก็ต จังหวัดละ 2 ราย และ ปทุมธานี สมุทรปราการ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สกลนคร แม่ฮ่องสอน สุโขทัย พังงา ลพบุรี สระบุรี และสุพรรณบุรี จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 25 ราย หญิง 10 ราย อายุ 14-93 ปี เฉลี่ย 77 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 100%
ส่วน 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 2,638 ราย 2. ชลบุรี 929 ราย 3. สมุทรปราการ 887 ราย 4. นนทบุรี 792 ราย 5. นครศรีธรรมราช 741 ราย 6. นครราชสีมา 716 ราย 7. ภูเก็ต 660 ราย 8. สมุทรสาคร 593 ราย 9. นครปฐม 479 ราย และ 10. สุรินทร์ 425 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 37 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ 414 ราย, ปทุมธานี 414 ราย, พระนครศรีอยุธยา 402 ราย, ร้อยเอ็ด 350 ราย, เชียงใหม่ 315 ราย, ชัยภูมิ 309 ราย, ราชบุรี 307 ราย, สุราษฎร์ธานี 287 ราย, ขอนแก่น 282 ราย, สุพรรณบุรี 238 ราย, ระยอง 231 ราย, กำแพงเพชร 220 ราย, ฉะเชิงเทรา 218 ราย, สระบุรี 218 ราย, สงขลา 212 ราย, อุบลราชธานี 209 ราย, อุตรดิตถ์ 180 ราย, กาญจนบุรี 179 ราย, เพชรบุรี 178 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 167 ราย, กระบี่ 162 ราย, กาฬสินธุ์ 157 ราย, ปัตตานี 156 ราย, ชุมพร 149 ราย, นครสวรรค์ 147 ราย, ปราจีนบุรี 143 ราย, สมุทรสงคราม 136 ราย, เพชรบูรณ์ 135 ราย, มหาสารคาม 132 ราย, ลพบุรี 132 ราย, พิษณุโลก 127 ราย, จันทบุรี 124 ราย, นครพนม 123 ราย, ศรีสะเกษ 112 ราย, สุโขทัย 111 ราย, หนองบัวลำภู 106 ราย และหนองบัวลำภู 100 ราย ส่วนวันนี้ไม่มีจังหวัดใดติดเชื้อหลักหน่วย
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 31 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 127 ราย ใน 33 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น รัสเซีย 49 ราย, อังกฤษ ยูเครน ประเทศละ 8 ราย, เยอรมนี 7 ราย, สิงคโปร์ 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 64 ราย แซนด์บ็อกซ์ 57 ราย ระบบกักตัว 3 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 3 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-21 ก.พ. 2565 จำนวน 144,610 ราย รายงานติดเชื้อ 3,619 ราย คิดเป็น 2.5% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 88,755 ราย ติดเชื้อ 933 ราย คิดเป็น 1.05% แซนด์บ็อกซ์ 48,156 ราย ติดเชื้อ 2,454 ราย คิดเป็น 5.1% และกักตัว 7,699 ราย ติดเชื้อ 232 ราย คิดเป็น 3.01%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 21 ก.พ. ฉีดได้ 190,673 โดส สะสมรวม 121,915,999 โดส เป็นเข็มแรก 53,163,555 ราย คิดเป็น 76.4% ของประชากร เข็มสอง 49,496,871 ราย คิดเป็น 71.2% ของประชากร และเข็มสาม 19,255,573 ราย คิดเป็น 27.7% ของประชากร