xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เพิ่มสูตรฉีดวัคซีนโควิดเด็ก 12-17 ปี ใช้สูตรไขว้ "ซิโนแวค-ไฟเซอร์" ได้ ให้ภูมิคุ้มกันสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เผย 4 สูตรฉีดวัคซีนโควิดในเด็ก มีทั้งไฟเซอร์ 2 เข็ม อายุ 5-11 ปี ไฟเซอร์ 2 เข็ม 12-17 ปี ซิโนแวค 2 เข็ม 6-17 ปี และล่าสุดเพิ่มคำแนะนำฉีดสูตรไขว้ "ซิโนแวค-ไฟเซอร์" เป็นทางเลือกในกลุ่มอายุ 12-17 ปี หลังพบผลศึกษาภูมิสูงเท่าไฟเซอร์ 2 เข็ม ส่วนอายุ 6-11 ปี ยังต้องรอพิจารณา

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นพ.วิชาญ ปาวัน ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 ในเด็ก ว่า การติดเชื้อในเด็กระลอกหลังๆ ที่มีสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอน พบมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงอายุ 5-11 ปี ติดเชื้อถึง 6% ถือว่าเพิ่มขึ้น แต่ว่าอาการค่อนข้างน้อย สิ่งที่กังวลคือเด็กบางคนที่ติดเชื้ออาจพบการเกิดภาวะ MIS-C เป็นการอักเสบของอวัยวะหลายระบบ สธ.จึงมีเป้าหมายเร่งฉีดวัคซีนให้เด็ก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในครัวเรือน ป้องกันการนำเชื้อไปให้ผู้สูงอายุในบ้าน และรองรับการเปิดโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย

สำหรับแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิดเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่ง ศบค.เห็นชอบตามที่ สธ.เสนอ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. คือ ให้ใช้วัคซีนที่รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. ซึ่งปัจจุบันที่ฉีดอายุต่ำกว่า 18 ปีได้มี 3 ตัว คือ ไฟเซอร์ฝาสีส้มกลุ่มอายุ 5-11 ปี ไฟเซอร์ฝาสีม่วง อายุ 12-17 ปี และวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์ม อายุ 6-17 ปี การดำเนินการฉีดเริ่มจากเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคก่อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา จากน้นเริ่มฉีดเด็กโต คือ ป.6 ไล่ลงไปถึง ป.1 ซึ่งดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. - 8 ก.พ. ได้ฉีดอายุ 5-11 ปีแล้ว 66,165 คน กรมควบคุมโรคได้ติดตามเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการรายงานผิดปกติในเด็ก

คำแนะนำการฉีดกลุ่มเด็กนั้น สธ.พิจารณาข้อมูลที่ผ่านความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญคณะต่างๆ มาออกนโยบาย ขอให้มั่นใจว่าประเภท ชนิด และสูตรของวัคซีนที่ สธ.ให้คำแนะนำผ่านการพิจารณารอบคอบ อยู่บนข้อมูลทางวิชาการ มาตรฐาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งสถานการณ์โควิดและจำนวนวัคซีนที่มี อย่างไฟเซอร์อายุ 5-11 ปี ซึ่งทั่วโลกมีความต้องการ เราก็สั่งซื้อโดยจะทยอยส่งเข้ามาสัปดาห์ละ 3-5 แสนโดส เป็นต้น

สำหรับคำแนะนำการฉีดวัคซีนอายุต่ำกว่า 18 ปี คือ 1.อายุ 5-11 ปี เป็นไฟเซอร์ฝาส้ม 2 เข็ม ขนาด 10 ไมโครกรัม 2 มิลลิลิตร ระยะห่าง 8 สัปดาห์ 2.เด็กอายุ 6-17 ปี ซิโนแวค 2 เข็ม ขนาด 0.5 มิลลิลิตร ห่าง 4 สัปดาห์ และ 3.เด็กอายุ 12-17 ปี ไฟเซอร์ 2 เข็ม ฝาม่วงขนาด 30 ไมโครกรัม 0.3 มิลลิลิตร ระยะห่าง 4 สัปดาห์นอกจากนี้ ยังมีสูตรไขว้ คือ ซิโนแวค-ไฟเซอร์ ซึ่งผ่านคำแนะนำคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี โดยใช้ซิโนแวค 0.5 มิลลิลิตร และไฟเซอร์ฝาม่วง 30 ไมโครกรัม 0.3 มิลลิลิตร ส่วนกรณีเด็กเล็ก 6-11 ปี สูตรไขว้ต้องนำเข้าคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาอีกครั้ง เมื่อได้ข้อสรุปจะนำเสนออีกครั้ง

"มีการศึกษาโดย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีการศึกษาการระดับภูมิคุ้มกันของเด็กวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี พบว่า การฉีดสูตรไขว้ ภูมิคุ้มกันภายหลังฉีดเข็มสองขึ้นเทียบเคียบกับการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่คณะอนุกรรมการฯ ตัดสินใจแนะนำการฉีดสูตรไขว้ในเด็ก 12-17 ปี แต่เด็กเล็ก 6-11 ปี ยังต้องรอนำข้อมูลเข้าพิจารณาอีกครั้ง กรณีผู้ปกครองยังลังเลให้บุตรหลานฉีดหรือไม่ฉีดนั้น จากข้อมูลพบอัตราป่วยตายจากโควิดในกลุ่มเด็กอยู่ที่สัดส่วน 2 ในหมื่น แต่ถ้าฉีดวัคซีนอัตราตายลดลงอย่างมากเป็นพันเท่าตัว ดังนั้นการฉีดวัคซีนมีประโยชน์ป้องกันการป่วยตายในเด็กได้ดี" นพ.วิชาญกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น