รมว.อว.ประชุมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรรม ระหว่างอาเซียนและจีน เห็นชอบแผนปฏิบัติการร่วมเพื่ออนาคต มุ่งเน้นพัฒนาคนและสร้างนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล เทคโนโลยีสีเขียว และขจัดความจนด้วยข้อมูลวิชาการ พร้อมแลกเปลี่ยนนักวิจัย 300 คน ใน 5 ปี
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และนายหวังจื้อกัง รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานร่วมในการประชุมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรรม ระหว่างอาเซียนและจีน ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีรัฐมนตรีจากประเทศอาเซียนทั้งบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม รวมทั้งเลขาธิการประชาคมอาเซียนเข้าร่วม
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีเป็น "ครั้งแรก" หลังจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมรัฐมนตรีในวันนี้ได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์กับแผนปฏิบัติการร่วมอาเซียน-จีนเพื่อความร่วมมืออย่างใกล้ชิดด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่ออนาคต พ.ศ. 2564-2568 (ACPASTI - ASEAN-China Plan of Action for Closer Partnership of Science, Technology and Innovation for the Future (2021-2025) รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างจีนกับอาเซียน และยังมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) สร้างเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ พร้อมนำ วทน. มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“รัฐมนตรีจากแต่ละประเทศ เห็นพ้องต้องกันว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีบทบาทสำคัญมากในการควบคุมและแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 และในอนาคตนี้จะเป็นกลไกที่สำคัญมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมหลังยุคโควิด และช่วยเตรียมความพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในครั้งต่อไปด้วย” รมว.อว.กล่าวและว่า
นอกจากนี้ ยังมีแผนสนับสนุน ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนนักวิจัย 300 คนภายใน 5 ปี ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นด้านการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีสีเขียว การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการขจัดความยากจนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งการส่งเสริมเยาวชนคนรุ่นใหม่อีกด้วย