รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด 19 เชิงรุกใน รพ.สต.และนอกสถานพยาบาลสำหรับกลุ่ม 608 ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก จันทบุรี ระยอง ตราด ให้เป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 50 ภายใน 31 สิงหาคมนี้ เพื่อลดการป่วยหนัก ลดเสียชีวิต และเตรียมเปิดเมืองอย่างปลอดภัย
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่จังหวัดตราด ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 6 และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ตราด โดยมีนายภิญโญ ประกอบผล ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดให้การต้อนรับ โดย ดร.สาธิตกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามการจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกในกลุ่ม 608 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบให้จัดบริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), หน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (Mobile Unit) รวมถึงฉีดที่บ้านของผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงได้ เพื่อให้รับการฉีดวัคซีนอย่างครอบคลุมโดยเร็วลดการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยตั้งเป้าหมายให้ได้ร้อยละ 50 ภายใน วันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ และเตรียมแผนการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มอื่นต่อไป
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งขับเคลื่อนการควบคุมโรคและการฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุมตามเป้าหมาย หลังจาก ศบค. ได้เห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอแผนขยายการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว 3 จังหวัดภาคตะวันออก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะจังหวัดตราดที่มีเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับประเทศ เพื่อเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ภายใต้มาตรการกระทรวงสาธารณสุข
“ขอให้จังหวัดต่างๆ เตรียมแผนการฉีดวัคซีนเชิงรุกซึ่งจะมีวัคซีนเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ในเดือนสิงหาคมมีวัคซีนทั้งหมด 13.8 ล้านโดส, กันยายน 15.3 ล้านโดส, ตุลาคม 24 ล้านโดส และจะรีบกระจายวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ เพิ่มจุดบริการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการฉีดวัคซีนได้สะดวกที่สุด” ดร.สาธิตกล่าว
ทั้งนี้ จังหวัดตราดมีประชากรเป้าหมายการฉีดวัคซีน 249,458 คน ข้อมูลถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ฉีดไปแล้ว 52,300 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.97 ในจำนวนนี้มีกลุ่ม 608 จำนวน 57,236 คน ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 22,821 คน คิดเป็นร้อยละ 39.87 ส่วนจังหวัดจันทบุรี ฉีดวัคซีนไปแล้ว 187,058 คน ครอบคลุมประชากรเป้าหมายร้อยละ 37.5 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดแล้วร้อยละ 44.07 ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังร้อยละ 32.32 หญิงตั้งครรภ์ร้อยละ 18.43 และจังหวัดระยองมีกลุ่มเป้าหมาย 608 ที่ต้องได้รับวัคซีน 89,285 คน ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณร้อยละ 75 ถือว่าดำเนินการได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้