คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลาง จำนวนกว่า 12,000 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุข ใช้ในการดำเนินงานในสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564
วันนี้ (12 ส.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (10 สิงหาคม 2564) ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ 12,669,218,318 บาท ให้กระทรวงสาธารณสุข จากงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประกอบด้วย 1. ค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ค่าล่วงเวลา (OT) และอื่นๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 4,543,574,263 บาท 2. ค่าใช้สอย จำนวน 1,542,027,703 บาท เพื่อใช้ในการดำเนินการต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลสนามทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ การค้นหาเชิงรุก ค่าฉีดวัคซีน และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าจ้างเหมาบริการอื่นๆ เป็นต้น 3. ค่าวัสดุ จำนวน 6,367,645,590 บาท เป็นค่ายาฟาวิพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ เวชภัณฑ์ วัสดุวิทยาศาสตร์ ร่วมถึงวัสดุสำหรับ อสม. เพื่อใช้ในการป้องกันโรค ยาสมุนไพร และ 4. งบลงทุน ครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง จำนวน 215,970,762 บาท โดยมีระยะเวลาการใช้จ่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะนี้มีจำนวน 15.1 ล้านเม็ด และได้ให้องค์การเภสัชกรรมจัดหาเพิ่ม โดยทยอยส่งมอบในเดือนสิงหาคม-กันยายน รวม 120 ล้านเม็ด และในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 มีแผนจัดหาและส่งมอบอีกเดือนละ 100 ล้านเม็ด
“ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่าย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะค่าตอบแทนเสี่ยงภัย ค่าล่วงเวลา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ทุ่มเทปฏิบัติงานทั้งการดูแลรักษาผู้ป่วย การคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อ การป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้” นายอนุทิน กล่าว