รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผย เรือนจำมีผู้ติดเชื้อสูง เพราะรับผู้ต้องขังรายใหม่เข้ามา รวมถึงมีการปูพรมตรวจเข้ม ขอญาติผู้ต้องขังอย่ากังวลจะดูแลผู้ติดเชื้ออย่างดีที่สุด และแจ้งผ่านทางโทรศัพท์ ด้านการฉีดวัคซีนเริ่มเตรียมดำเนินการแล้ว
วันนี้ (18 พ.ค.) นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ภายในเรือนจำ ผ่านรายการ NBTรวมใจ สู้ภัยโควิด-19@ทำเนียบรัฐบาล ว่า เป็นการปูพรมเข้าไปตรวจอย่างเข้มข้น และมีการสันนิษฐานว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้เกิดจากเชื้อโรคมีระยะฟักตัวนานขึ้นทำให้เราตรวจไม่เจอเชื้อในการกักตัวช่วงแรก 14 วัน จึงขยายเวลาเป็น 21 วัน หลัง 21 วัน พบเชื้อในผู้ต้องขังที่ออกไปนอกเรือนจำ เช่น การไปศาล การเดินทางไปยัง รพ.ภายนอก ทางกรมราชทัณฑ์จึงงดการเยี่ยมญาติ งดการให้ผู้ต้องขังออกไปทำงานภายนอก งดกิจกรรมต่างๆ ที่บุคลากรภายนอกเข้ามาภายใน พร้อมยืนยันว่า การที่ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 สืบเนื่องมาจาก กรมราชทัณฑ์รับผู้ต้องขังรายใหม่โดยที่เป็นเหตุผลทางกระบวนการอยุติธรรมที่กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงาน เมื่อศาลมีคำสั่งกรมราชทัณฑ์ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งผู้ต้องขังรายใหม่เราต้องดำเนินการตรวจหาโควิดให้เร็วที่สุด แม้ว่าเชื้อจะมีความยากลำบากในการค้นพบช้าหรือไม่แสดงอาการ เราก็จะดำเนินการให้ถี่ถ้วนและมีเครื่องมือที่มีศักยภาพมีหน่วยตรวจชีวโมเลกุลที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ และขอประชาชนมั่นใจว่ากรมราชทัณฑ์จะดูแลกลุ่มผู้ต้องขังอย่างเต็มที่ มีข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้รายงานประกาศ และแจ้งทางโทรศัพท์กับญาติพี่น้อง เกี่ยวกับความคืบหน้าของอาการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและติดเชื้อรุนแรงจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังในระยะเวลาที่สมควร ขณะนี้ทราบว่ามีเเผนการที่จะดำเนินการแล้ว