สำนักอนามัย กทม. เผยพยายามจะตรวจเชื้อโควิดให้ได้วันละ 1 หมื่นคน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงไข่แดง เร่งปูพรมในเป้าหมายสำคัญอีก 5 เขต วอนผู้ป่วยขออย่าปฏิเสธโรงพยาบาลสนาม ชี้ใน 2 สัปดาห์ผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลือสูงสุดวันละ 500 มั่นใจยังรับมือไหว
วันนี้ (10 พ.ค.) พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน รายการ NBT ร่วมใจ สู้ภัยโควิด-19@ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงสถานการณ์ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้พยายามที่จะตรวจให้ได้วันละ 1 หมื่นคน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงไข่แดง คลัสเตอร์ใหญ่ ที่พบการติดเชื้อให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ส่วนพื้นที่ไข่ขาว ก็จะเฝ้าระวังเชิงรุกสุ่มเก็บตัวอย่าง ส่วนกลุ่มเปราะบางนั้นทางสำนักอนามัยเข้าไป Swab ให้ถึงที่บ้าน ทั้งนี้จะเร่งปูพรมในเป้าหมายสำคัญ 5 เขต กทม.
นอกจากนี้ กทม.ยังได้รับความร่วมมือที่ดีจาก อสม.ในการช่วยชี้เป้าหมายกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ตลอดจนทำหน้าที่ในการจัดส่งเสบียงอาหาร ของใช้จำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภคให้กับผู้ที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านโดยไม่สามารถออกมาภายนอกได้ อย่างไรก็ดี สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัว 14 วันเพื่อสังเกตอาการนั้น หากไม่สามารถกักตัวอยู่ที่บ้านได้ ทางกทม.ได้จัดให้มี Local Quarantine (LQ) ไว้รองรับ ซึ่งขณะนี้มีว่างอยู่ 200 เตียง และเตรียมจะเปิดเพิ่มเติมอีกในอนาคต
ด้าน นายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. ฝากประชาชน หากมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์เอราวัณติดต่อไปแจ้งว่าท่านมีผลเป็นบวกขออย่าปฏิเสธโรงพยาบาลสนาม ซึ่งสามารถอยู่ได้ จนถึงขณะนี้ก็ยังมีผู้ปฏิเสธอยู่ไม่ถึง 5% จากก่อนหน้านี้ที่มีถึง 10% จึงขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ส่วนขณะนี้มีผู้ป่วยในพื้นที่กทม.เฉลี่ย 500-1,000 คน จะรับมือกับสถานการณ์ในอีก 2 สัปดาห์ได้หรือไม่ นายแพทย์สุขสันต์ ระบุว่า คาดว่า หากมีการคัดกรอง และฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง จะมีผู้ป่วยเฉลี่ยวันละ 500 คน และจะน้อยลงเรื่อยๆ ประกอบกับมีผู้หายป่วยออกมาเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่ารับมือไหว
