กระทรวงสาธารณสุข เผย ผู้ติดเชื้อระลอกเมษายนติดจากคนใกล้ชิดในบ้าน/เพื่อน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 27 เป็นร้อยละ 54 แนะปรับการใช้ชีวิต เข้มมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง พร้อมเน้นนอกจากวัคซีนแล้ว ความร่วมมือของทุกคนมีความสำคัญช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,940 ราย จากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 1,799 ราย คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 85 ราย จากต่างประเทศ 10 ราย รักษาหายเพิ่ม 1,183 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 29,481 ราย อาการหนัก 954 ราย ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 270 ราย และมีผู้เสียชีวิต 21 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 9 ราย อายุระหว่าง 34-88 ปี อยู่ใน กทม. 8 ราย เชียงใหม่ 4 ราย ชลบุรี ลำพูน จังหวัดละ 2 ราย นครปฐม ตาก ระนอง นครสวรรค์ อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดสมอง มะเร็ง ภาวะอ้วน ปอดเรื้อรัง ไตเรื้อรัง และติดบ้านติดเตียง โดยติดเชื้อมาจากการสัมผัสในครอบครัว เพื่อน/เพื่อนร่วมงาน ซึ่งการพบผู้เสียชีวิตจำนวนมากสาเหตุจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขพยายามดูแลอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มียา เวชภัณฑ์ ที่เพียงพอที่จะดูแลผู้ติดเชื้อทุกคน
นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ขณะนี้ในเขต กทม.ยังเป็นพื้นที่ระบาดใหญ่ ส่วนในต่างจังหวัดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงตัว ในจังหวัดสีแดงและสีส้มจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดรวมถึงมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ทั้งนี้ หลังจากมีมาตรการปิดสถานบันเทิง ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้นทำให้พบผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้สัมผัสภายในบ้านเพิ่มสูงขึ้นตามมา ข้อมูลการระบาดระลอกเมษายนสัปดาห์ที่ 14-17 มีผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดคนในครอบครัวและเพื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 27 เป็นร้อยละ 54 ขอแนะนำให้เข้มงวดป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในครอบครัว ผู้ที่ทำงานนอกบ้านให้เว้นระยะห่าง แยกสำรับอาหาร หากเป็นไปได้ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในบ้านปรับกิจกรรมในครอบครัวป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดการติดเชื้อขึ้นได้
สำหรับการลงพื้นที่ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนคลองเตย ของกระทรวงสาธารณสุข กทม.และหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ ตรวจหาเชื้อ 433 ราย พบติดเชื้อ 21 ราย ที่วัดสะพาน ตรวจหาเชื้อ 489 ราย พบติดเชื้อ 29 ราย และชุมชนพัฒนาใหม่ตรวจหาเชื้อ 411 ราย พบติดเชื้อ 49 ราย ส่วนการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยโควิด ในเขต กทม. ให้ความมั่นใจว่าผู้ติดเชื้อที่ตรวจและทราบผลแล้วจะรอเตียงไม่เกิน 48 ชั่วโมง มีการจัดกลุ่มอาการของผู้ติดเชื้อ เป็นสีเขียว เหลือง หรือแดง และกระจายไปยังโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel ที่เหมาะสมต่อไป ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ขณะนี้ฉีดสะสมแล้ว 1,484,565 โดส แบ่งเป็นรับวัคซีนเข็มแรก 1,097,862 ราย และครบ 2 เข็ม 386,703 ราย โดยในวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีน 7,487 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 2,632 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 4,855 ราย
“สำหรับข่าวปลอมในสื่อโซเชียลมีเดีย ในประเด็นจำนวนวัคซีนสำหรับประชาชน รัฐบาลยืนยันว่ามีวัคซีนโควิด-19 เพียงพอที่จะฉีดให้คนไทยทุกคน นอกจากวัคซีนแล้วการปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล สาธารณสุขสังคม และองค์กร มีส่วนสำคัญ แม้อาจทำให้รู้สึกไม่ผ่อนคลายมากนัก หากทุกคนความร่วมมือร่วมใจกันการระบาดจะลดลงอย่างรวดเร็ว และทำให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติอย่างเดิมมากขึ้น” นายแพทย์เฉวตสรร กล่าว