xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯเชียงใหม่นำแจงรายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19ตายอีก2ราย-ชี้แนวโน้มดีขึ้นแต่ยังต้องคงมาตรการเข้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่นำแจงรายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นผู้สูงอายุและสัมผัสเสี่ยง ระบบหายใจล้มเหลว ขณะที่คลัสเตอร์งานศพอมก๋อยเจอติดเพิ่มอีก 4 ราย ชี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าวันละ 100 รายต่อเนื่องหลายวันแล้ว แต่ยังคงมาตรการเข้มข้น

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ช่วงเย็นวันนี้ (2 พ.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 100 รายมาเป็นระยะเวลาหลายวันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีมาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้น เนื่องจากยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ โดยแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพบผู้ติดเชื้อสูงในกลุ่มครอบครัว ชุมชน และสถานที่ทำงาน ตามลำดับ จึงขอความร่วมมือชาวเชียงใหม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และดูแลสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล รวมถึงชะลอหรืองดเว้นการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 พร้อมกันนี้ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั้ง 2 รายในวันนี้

ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
ด้าน ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงมีจำนวน 55 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,685 ราย รักษาหายแล้ว 2,118 ราย คิดเป็นร้อยละ 57 ของผู้ป่วยทั้งหมด ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภทจำนวน 1,560 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตในจังหวัดเชียงใหม่เป็น 7 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 1,194 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 191 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 71 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 18 ราย

ส่วนการตรวจกลุ่มเสี่ยงของโรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลเอกชน และจุดตรวจคัดกรองต่างๆ เมื่อวานนี้ (1 พ.ค. 64) ได้ทำการตรวจไปทั้งหมด 1,229 ราย พบผู้ติดเชื้อ 45 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.66 และเมื่อแยกรายจุดตรวจจากโรงพยาบาลต่างอำเภอพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นร้อยละ 9.86 โรงพยาบาลเอกชน ร้อยละ 9.46 และจุดตรวจที่โรงพยาบาลสนามร้อยละ 6.92 ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูล 55 รายใหม่ โดยมีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอเมืองร้อยละ 50 ต่างอำเภอร้อยละ 50 และในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค. 64) จะมีการเพิ่มจุดตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ตรงศูนย์วัณโรคเดิม ถนนศรีดอนไชย อีก 1 จุด จึงขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงเข้ารับการตรวจคัดกรองได้

ทั้งนี้ ในส่วนของการระบาดในคลัสเตอร์ต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่นั้น หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ล่าสุดพบว่ามีหลายคลัสเตอร์ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มา 5-6 วันแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 28 วัน ตามมาตรการควบคุมโรคติดต่ออันตราย ขณะที่คลัสเตอร์งานศพที่อำเภออมก๋อยยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ 4 ราย ซึ่งทางทีมควบคุมโรคอำเภออมก๋อยได้ลงพื้นที่ค้นหากลุ่มเสี่ยงและควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้นอีกครั้ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ชี้แจงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 2 รายว่า รายแรกเป็นหญิงไทยอายุ 66 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน ติดเชื้อมาจากคนในครอบครัว (บุตร) ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 28 เมษายน และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์เมื่อวันที่ 29 เมษายน ต่อมามีอาการเหนื่อยมาก อัตราการหายใจ 40 ครั้ง/นาที และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมาด้วยระบบการหายใจล้มเหลวรุนแรง คลื่นไฟฟ้าหัวใจมีความผิดปกติ


ส่วนอีกรายเป็นหญิงไทยอายุ 51 ปี ไม่มีโรคประจำตัว แต่มีน้ำหนักมากถึง 80 กิโลกรัม และมีบุคคลในครอบครัวติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 22 เมษายนมีอาการหายใจหอบเหนื่อย จึงเรียกรถพยาบาลเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสันทราย และได้ทำการตรวจเอกซเรย์ปอด พบปอดอักเสบทั้งสองข้าง จึงได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งอาการแรกรับรู้สึกตัวดี แต่มีอาการหายใจเร็ว ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดค่อนข้างต่ำ และในวันที่ 29 เมษายน ผู้ป่วยมีภาวะการทำงานของอวัยวะภายในล้มเหลวหลายส่วน และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมาด้วยภาวะการล้มเหลวของอวัยวะหลายระบบภายในร่างกายรุนแรง ไม่สามารถประคับประคองต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย แต่ทีมแพทย์ยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาทุกชีวิตอย่างสุดความสามารถ เพื่อรักษาให้ผู้ป่วยปลอดภัยและรอดชีวิต


กำลังโหลดความคิดเห็น