เมื่อวันที่ 21 มี.ค.64 เวลา 09.00 น. : นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดงานบ้านสมเด็จสร้างคน สร้างอาชีพใหม่ สร้างความสุข โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผศ.ดร.ลินดา เกณฑ์มา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ผู้บริหารเขตตลิ่งชันและเขตธนบุรี ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตตลิ่งชัน สำนักงานเขตธนบุรี ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา จัดงานบ้านสมเด็จสร้างคน สร้างอาชีพใหม่ ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย/มหาวิทยาลัยสู่ตำบล) ขึ้น เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ โดยมีมหาวิทยาลัยเป็น System Integrator และจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตจบใหม่และนักศึกษา ให้มีงานทำและฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน รวมทั้งให้เกิดการพัฒนาทักษะในการเสริมสร้างอาชีพใหม่ในพื้นที่ตำบลรับผิดชอบ รวมถึงเกิดการพัฒนาตามปัญหาและความต้องการของชุมชน ตลอดจนให้เกิดการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Community Big data) ในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมีเป้าหมายในพื้นที่แขวงคลองชักพระ แขวงตลิ่งชัน แขวงฉิมพลี แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน และแขวงบางยี่เรือ แขวงหิรัญรูจี แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงพื้นบ้านของชุมชน นิทรรศการร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารของดีชุมชนในแต่ละแขวง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ ประชาชนว่างงานและบัณฑิตจบใหม่ไม่สามารถหางานทำได้ ต้องย้ายกลับถิ่นฐานจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา นโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งการสร้างงาน การพัฒนาอาชีพในชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คาดได้ว่า จะมีโครงการเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม หากไม่บูรณาการกันอย่างเป็นระบบก็จะส่งผลให้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ การใช้จ่ายงบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงการในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง โดยมหาวิทยาลัยในพื้นที่ต้องสามารถใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่ทำงานประสานและร่วมงานกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้การทำงานบูรณาการนี้ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลที่สามารถนำไปสู่การลดความยากจนอย่างมีเป้าหมายชัดเจน
