กก.สมานฉันท์ ประชุมตัวแทนม็อบสะท้อนแกนนำผู้ชุมนุมไม่พอใจ จนท.รัฐสองมาตรฐานกับม็อบแต่ละกลุ่ม แนะเร่งอำนวยความยุติธรรมในคดี-จัดพื้นที่แสดงความเห็น-รัฐอำนวยความสะดวกการชุมนุมไม่ใช้ความรุนแรง
วันนี้ (15 มี.ค.) นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ เป็นประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้รับฟังความเห็นตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม โดย นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี โฆษกคณะกรรมการ ได้ไปพูดคุยนอกรอบกับแกนนำผู้ชุมนุมบางกลุ่ม ซึ่งได้สะท้อนความไม่พอใจในเรื่องการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันของเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละฝ่าย และกังวลถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่า กระบวนการรัฐสภา จะมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหา และเสนอแนะให้คณะกรรมการเร่งให้เกิดการอำนวยความยุติธรรมในเรื่องคดีความต่างๆ ของผู้ชุมนุม การจัดพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น และรัฐต้องอำนวยความสะดวกในการชุมนุมโดยไม่ใช้ความรุนแรง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับฟังความเห็นจาก นายบุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง รวมทั้งเหยื่อกลุ่ม กปปส. และกลุ่มเสื้อแดง พบว่ามีความเหมือนและความต่าง โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความรู้สึกคล้ายๆ กัน คือ ไม่ชอบให้มีคนพูดถึงพวกเขาในเชิงด้อยค่า ลดทอนความเป็นมนุษย์ และการปรามาสว่าพวกเขาถูกจ้างมา รวมทั้งพวกเขาได้ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่เข้าร่วมชุมนุมซึ่งผลกระทบนั้นลึกซึ้งและละเอียดอ่อนมาก
นายบุญเลิศ ระบุด้วยว่า แต่สิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีความเหมือนกันคือการรับฟังสื่อเพียงข้างเดียวจนไม่ได้ฟังสื่ออีกข้างหนึ่ง ทำให้ไม่เข้าใจและเปิดรับมุมมองความคิดเห็นที่แตกต่าง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของสองมาตรฐานที่พวกเขายังรู้สึกอยู่ ดังนั้น ความพยายามแสวงหาความยุติธรรมและความสมานฉันท์ต้องมีความสมดุลกันเพื่อให้คนยอมรับได้ และควรเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางเพื่อสร้างสังคมอารยะ อีกทั้งหากมีการชุมนุม คณะกรรมการฯ ควรเข้าร่วมสังเกตการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจในสถานการณ์
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบรายงานความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการทั้ง 2 คณะ ดังนี้ 1. คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นและสื่อสารสาธารณะ รายงานสรุปผลการสานเสวนาประชาธิปไตยที่เยาวชนพึงปรารถนา เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 64 เวลา 08.30-16.00 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นการจัดครั้งแรก โดยในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จและตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งได้มีการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้เกี่ยวข้องทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในประเด็น “ประชาธิปไตยที่เยาวชนพึงปรารถนา” โดยสรุปฉันทามติได้ 5 ประเด็น ดังนี้ 1.ต้องการเห็นการเปิดพื้นที่ให้มีการใช้สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และต้องการเห็นความรักความสามัคคีของคนในประเทศ 2. ต้องการเห็นประชาธิปไตยที่มีการใช้กฎ กติกา ที่ชัดเจนในการจัดการและแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน รวมถึงเสียงส่วนใหญ่ต้องเคารพเสียงส่วนน้อย 3. ต้องการเห็นสังคมที่ไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มที่แสดงออกโดยการชุมนุม และควรจัดเวทีให้มีการพูดคุยกันระหว่างนักเรียน/นักศึกษา และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 4. ต้องการเห็นภาครัฐเข้ามาดูแลบัณฑิตจบใหม่ โดยการจัดหางานรองรับให้ตรงกับสายงานและความชำนาญ 5. ต้องการเห็นประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน โดยเน้นภาคการเกษตร
นอกจากนี้ ยังได้สอบถามผู้เข้าร่วมสานเสวนาถึงความรู้สึกในเรื่องกระบวนการของการดำเนินการ ซึ่งผู้เข้าร่วมสานเสวนาส่วนใหญ่เห็นว่า เวทีนี้เป็นเวทีที่ดีมาก และต้องการให้จัดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเสนอแนะให้จัดพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชนได้แสดงความคิดเห็นได้ทุกเรื่องเพื่อให้ได้ความต้องการที่แท้จริง และเสนอประเด็นเร่งด่วน อาทิ คดีความต่างๆ การถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่ และการไม่ใช้ความรุนแรงในการจับกุม