วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และภริยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะและเขตสาทร โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงได้นำสิ่งของที่ได้รับมอบจากผู้มีจิตศรัทธามาแจกจ่ายแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั้ง 50 สำนักงานเขต โดยวันนี้ได้ลงพื้นที่บริเวณโรงเรียนรัตนจีนะอุทิศ เขตราษฎร์บูรณะ มอบจักรยานแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 30 คัน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร 5 กก. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ลัง และปลากระป๋อง ให้แก่ประชาชนในชุมชนพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ จำนวน 540 ครัวเรือน ที่เดินทางมารับด้วยตนเอง และเดินตรวจเยี่ยมพบปะทักทายมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนรัตนจีนะ จำนวน 264 ครัวเรือน และบ้านหลังชุมชน จำนวน 17 ครัวเรือน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน มอบสิ่งของแก่ผู้พิการ จำนวน 4 ราย ผู้สูงอายุพิการด้านการได้ยิน จำนวน 1 ราย และผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 1 ราย จากนั้นเวลา 18.00 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่บริเวณโรงเรียนวัดดอน เขตสาทร เดินตรวจเยี่ยมพบปะทักทายมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในชุมชนศรีสุริโยทัย จำนวน 259 ครัวเรือน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน มอบสิ่งของแก่ผู้พิการ จำนวน 4 ราย ผู้สูงอายุไม่มีผู้ดูแล จำนวน 1 ราย และผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 5 ราย ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครคำนึงถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่เดินทางมารับสิ่งของด้วยตนเอง จะมีการตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ จัดระเบียบโดยแจกบัตรคิว กำหนดจุดนั่งรอ และเข้าแถวรับสิ่งของ โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งแจกแอลกอฮอล์ล้างมือให้แก่ประชาชนในชุมชนและที่เดินทางมารับสิ่งของดังกล่าวอีกด้วย
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ประธานชุมชน ผู้แทนชุมชนในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ พบประชาชน” เพื่อหารือรับฟังปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งปัญหาที่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการให้กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ต้องการให้สร้างเขื่อนคลองแจงร้อน และคลองราษฎร์บูรณะ ขอไฟฟ้าส่องสว่างริมคลองแขก (คลองบางพึ่ง) ปัญหาการจราจรบริเวณแยกถนนราษฎร์พัฒนา (แยกซอยสุขสวัสดิ์ 27) ต้องการป้ายจราจรที่ชัดเจนและกวดขันวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด การทำทางม้าลาย ขีดสีตีเส้น และไฟสัญญาณจราจรเตือน การจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารในชุมชน การปรับปรุงถนนราษฎร์บูรณะ เนื่องจากบางช่วงผิวจราจรไม่เรียบ ส่วนในพื้นที่เขตสาทร ปัญหาของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนได้รับความเดือดร้อน และต้องการให้กรุงเทพมหานครดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ไฟฟ้าส่องสว่างเพิ่มเติมบริเวณใต้ทางด่วน เพื่อความปลอดภัยในการสัญจร ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตในพื้นที่ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานสาธารณูปโภค และสถานีตำรวจนครบาลในท้องที่ ร่วมกันตรวจสอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนอำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในชุมชนต่อไป
“ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงได้นำสิ่งของที่ได้รับการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามาส่งมอบให้แก่ประชาชน โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด แม้สิ่งของดังกล่าวอาจไม่ได้มีค่ามากมายนัก แต่เต็มไปด้วยความห่วงใยและน้ำใจจากผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ให้กรุงเทพมหานครทำหน้าที่ส่งมอบให้ผู้ประสบความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ขณะนี้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่เรายังประมาทไม่ได้ ขอให้อดทนอีกสักนิด สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อต้องออกนอกบ้าน หมั่นล้างมือเป็นประจำ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อีกไม่นานเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน นอกจากนี้ ยังได้พบปะพูดคุยและรับฟังปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชน ทั้งนี้ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นงานที่กรุงเทพมหานครต้องดำเนินการแก้ไขทันที” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว