กทม. เผยเตรียมเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 437 และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน พร้อมจะจัดกิจกรรม Big Cleaning ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ เพื่อเตรียมพร้อมหากมีประกาศให้เปิดการเรียนการสอน สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
วันนี้ (25 ม.ค.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2564 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
ในที่ประชุมวันนี้ สำนักการศึกษาและสำนักพัฒนาสังคม ได้รายงานความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน พร้อมมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรค โดยสำนักการศึกษาได้เตรียมพร้อมมาตรการหลักก่อนเปิดภาคเรียน ประกอบด้วย จำกัดผู้ปกครองและบุคคลที่จะเข้ามาในโรงเรียน การคัดกรอง การเน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่าง การล้างมือ การทำความสะอาด การค้นหาและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงในโรงเรียน โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการอื่นๆ อาทิ การเน้นให้นักเรียนได้เรียนในที่โล่ง การจำกัดเวลาในการรับประทานเพื่อให้นักเรียนใช้เวลาถอดหน้ากากอนามัยน้อยที่สุด โต๊ะอาหารต้องมีฉากกั้นและเว้นระยะนักเรียน แม่ครัวและพนักงานล้างจานต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ อาหารที่ปรุงต้องสะอาดและสุกใหม่ จัดให้มีการเหลื่อมเวลาในการพักรับประทานอาหาร การใช้ห้องน้ำจะจัดให้สลับกันตามความเหมาะสมมีการรอคิวและเว้นระยะห่างอย่างชัดเจน และการดูแลให้นักเรียนล้างมือเป็นประจำทุกชั่วโมง ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 แห่งจะจัดกิจกรรม Big Cleaning พร้อมกัน เพื่อเตรียมพร้อมหากมีประกาศให้เปิดการเรียนการสอนและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง
จากนั้นสำนักพัฒนาสังคมได้รายงานมาตรการสำหรับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 292 ศูนย์ ในพื้นที่ 45 สำนักงานเขต (ยกเว้น บางบอน บางรัก สัมพันธวงศ์ พระนคร และบางกอกใหญ่) โดยได้ดำเนินการตามมาตรการเพื่อเตรียมพร้อมเปิดศูนย์แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะเตรียมการก่อนเปิด และระยะเปิดดำเนินการ ในส่วนของระยะเตรียมการก่อนเปิด ประกอบด้วย การติดตั้งแผนกรองอากาศ การทำความสะอาดพื้นผิวการเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ล้างมือ ในส่วนของอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ได้จัดอบรมหลักสูตรด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยเรื่องการป้องกันโรค การเตรียมการสอนและการจัดกิจกรรมโดยรักษาระยะห่าง รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ปกครองให้เตรียมเด็กให้พร้อม รวมทั้งหลีกเลี่ยงไปสถานที่แออัด และหมั่นให้เด็กๆ ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
สำหรับระยะเปิดดำเนินการ ประกอบด้วย 1. การคัดกรองอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก วัดไข้ น้ำมูก ซักประวัติ 2. การคัดกรองผู้ปกครองและเด็กก่อนวัยเรียน วัดไข้ น้ำมูก ซักประวัติ 3. การรับ-ส่งเด็กประจำวัน กำหนดช่องทางเข้า-ออกทางเดียว เว้นระยะห่าง 2 เมตร จำกัดมิให้แออัดหรือรวมกลุ่ม 4. หน้ากากอนามัย สวมหน้ากากอนามัย 100% 5. ล้างมือ จัดให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ ล้างมือทุก1-2 ชั่วโมง 6. การจัดอัตราส่วนเด็กก่อนวันเรียน (Small Group) จัดกลุ่มกิจกรรม ไม่เกินกลุ่มละ 5 คนต่ออาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก 1 คน เว้นระยะห่างระหว่างกลุ่ม 7. การจัดกิจกรรมภายในศูนย์ฯ ยึดหลักเกณฑ์ 2 ตร.ม./คน จัดพื้นที่การเรียนรู้เป็นรายบุคคลและลดเวลาทำกิจกรรมเท่าที่จำเป็น ใช้อุปกรณ์เป็นรายบุคคล 8. กิจกรรมที่ควรงด งดการต่อแถวแบบประชิดและกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน เช่น การแข่งกีฬา 9. การทำความสะอาด โดยเฉพาะพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน 10. อุปกรณ์สื่อการเรียนรู้ ส่งเสริมพัฒนาการเด็กทุกประเภทมีเพียงพอแก่เด็กทุกคน 11. อุปกรณ์ของใช้ของเด็กที่ทำจากผ้า ทำความสะอาดทุกวัน เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว 12. ทำความสะอาดร่างกาย (อาบน้ำ) อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กทำความสะอาดร่างกายก่อนปฏิบัติหน้าที่ 13. ตรวจร่างกายประจำปี (อาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก) อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กตรวจร่างกายปีละ 1 ครั้ง 14. การยืนยันและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด