เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เวลา 22.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และ นางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และมอบนโยบายในการปฏิบัติการล้างทำความสะอาดพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตดินแดง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เขตดินแดง
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน และมีความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชนในช่วงเดือน ธ.ค. 63 ถึง ม.ค. 64 เนื่องจากประเทศไทยจะประสบกับสถานการณ์ฝุ่น (PM 2.5) มากกว่าปกติ ดังนั้น การจะลดปริมาณฝุ่นต้องบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับกิจกรรม Big Cleaning ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกรุงเทพมหานคร ในนามของรัฐบาลต้องขอขอบคุณกรุงเทพมหานครและส่วนราชการต่างๆ ที่มาร่วมกิจกรรม และหวังว่าในช่วงเวลา 2 เดือนดังกล่าว ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันลดมลพิษ มลภาวะแวดล้อม หรือลดสิ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญของกรุงเทพมหานครและเมืองต่างๆทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในหลายด้าน อาทิ ด้านสุขภาพ ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะ ทำลายวัตถุและสิ่งก่อสร้าง โดยเพิ่มอัตราการสึกกร่อนของโลหะและพื้นผิวสิ่งก่อสร้างต่างๆ กรุงเทพมหานครตระหนักถึงอันตรายต่างๆที่เกิดจากภาวะฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน จึงได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้า อาทิ ล้างทำความสะอาดพื้นที่ฉีดพ่นละอองน้ำ จำกัดเวลาการเดินรถบางประเภทในบางพื้นที่ และสลับเวลาการทำงานเพื่อลดปริมาณยานพาหนะ งดกิจกรรมกลางแจ้งของโรงเรียนในสังกัด กทม. เป็นต้น ด้านแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน ได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันระดมองค์ความรู้ทางวิชาการและร่วมกันหามาตรการทางกฎหมายเพื่อป้องปรามพฤติกรรม / กิจกรรม / ปัจจัยทางกายภาพต่างๆ อันเป็นสาเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 สำหรับการปฏิบัติการล้างทำความสะอาดพื้นที่ ที่ผ่านมา กทม. ได้ดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประสบปัญหา PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน อาทิ เพิ่มความถี่ในการล้าง ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างใบไม้ สอดส่องดูแลมิให้มีการลักลอบเผาขยะในที่สาธารณะและที่เอกชน พร้อมตรวจสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยควันเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมควบคุมมลพิษ เพิ่มความเข้มงวดตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท พร้อมแนะนำการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ อีกทั้งประสานสถานีตำรวจท้องที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรหรือจัดการจราจรให้คล่องตัวลดการสะสมฝุ่นละอองจากควันรถยนต์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดกิจกรรม Big Cleaning เพื่อพัฒนาทำความสะอาดพื้นที่ลดการสะสมของฝุ่นละอองครั้งนี้ เป็นการ Kick Off การปฏิบัติงานพร้อมกันทั่วกรุงเทพฯ โดยกำหนดจัดกิจกรรมปล่อยแถวพร้อมกัน 5 จุด ประกอบด้วย 1. เขตดินแดง จุดปล่อยแถวบริเวณเกาะดินแดงและทำความสะอาดไปตามแนวถนนทั้ง 4 เกาะของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน 2. เขตธนบุรี จุดปล่อยแถวบริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน(วงเวียนใหญ่) และทำความสะอาดไปตามแนวถนนอินทรพิทักษ์ ซึ่งพล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน 3. เขตบางขุนเทียน จุดปล่อยแถวบริเวณโรงเบียร์ฮอลล์แลนด์ใกล้เซ็นทรัลพระราม 2 4. เขตทวีวัฒนา จุดปล่อยแถวทางเข้าสนามหลวง 2 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา และ 5. เขตหนองแขม จุดปล่อยแถวสำนักงานเขตหนองแขมและทำความสะอาดไปตามถนนซอยเพชรเกษม 81 ซึ่งในวัน เวลาเดียวกันนี้ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกิจกรรม Big Cleaningในพื้นที่เขตหลักสี่ และ 50 สำนักงานเขต ได้จัดกิจกรรม Big Cleaningในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมกันด้วย โดยหลังจากนี้ กทม. จะบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ พร้อมทั้งวิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นเป็นรายชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือและแก้ไขจนกว่าปัญหาจะคลี่คลายลง
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย สนับสนุนกำลังพลอาสาสมัครรักษาดินแดน (อ.ส.) จำนวน 40 นาย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนรถน้ำพร้อมรถเติมน้ำ จำนวน 5 ชุด (1 ชุด/เขต) กองทัพบก สนับสนุนรถน้ำ จำนวน 5 คัน พร้อมกำลังพล สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม สนับสนุนรถน้ำ จำนวน 3 คัน พร้อมกำลังพล (1 คัน/เขต) กองบังคับการตำรวจจราจรจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในบริเวณจัดกิจกรรม สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตดินแดง เขตพญาไท และเขตราชเทวีจัดรถน้ำแรงดันสูง รถล้างถนน และกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน รวมจำนวน 200 คน
สำหรับมาตรการการฉีดพ่นน้ำ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการอย่างเนื่อง มี 4 วิธี คือ การฉีดน้ำล้างต้นไม้เพื่อชะล้างฝุ่น PM 2.5 ที่เกาะอยู่กับใบไม้ ให้ใบไม้สะอาดเพื่อให้สามารถดักจับฝุ่นใหม่ต่อไป การฉีดน้ำล้างถนนเพื่อล้างฝุ่น PM 10 ลงท่อระบายน้ำ อันเป็นการป้องกันไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายกลับขึ้นมาในอากาศ การฉีดน้ำบริเวณเขตก่อสร้างเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น PM 10 และป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 10 แตกตัวเป็นฝุ่นละออง PM 2.5 และการฉีดน้ำรอบอาคารสูงเพื่อลดปริมาณฝุ่นรอบๆ อาคาร เพื่อป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ฟุ้งกระจายเข้าไปสร้างผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในอาคารทางหนึ่งด้วย