บทเรียนโกง - เมื่อแม่ทำร้ายลูก!/ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

ติดตามคดีความคดีหนึ่งมาพอสมควร...

เมื่อวันก่อนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีเรียกรับสินบนจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพมหานคร ปี 2545 พิพากษายืนจำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 50 ปี และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว 40 ปี ในความผิดฐานเรียกรับทรัพย์สินหรือจะยอมรับทรัพย์สิน เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ และความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ที่ติดตามมาโดยตลอดด้วยความสนใจและตกใจ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นการกระทำความผิดของแม่และลูกสาว

โดยปกติหัวอกคนเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกมักจะปกป้องและทะนุถนอมลูก เวลาลูกป่วยไข้หรือเจ็บป่วย คนเป็นแม่ก็อยากจะป่วยแทน หรือแม้แต่เกิดเหตุการณ์ร้ายใด ๆ กับลูก ก็มักจะต้องออกรับแทน หรือปกป้องลูกทุกทาง เพราะด้วยความรักของผู้เป็นแม่ จึงยอมทำทุกอย่างได้เพื่อลูก

ฉะนั้น ข่าวคราวชิ้นนี้ไม่ว่าที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไร แต่ก็เชื่อว่าสำหรับคนเป็นแม่แล้วหัวใจคงแตกสลายเป็นแน่ เพราะการกระทำของแม่ในขณะที่ดำรงตำแหน่งและได้กระทำการมิชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด แต่ได้นำลูกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทั้งแม่ลูกก็กำลังได้รับผลจากการกระทำของตัวเองแล้ว

แต่สำหรับคนเป็นแม่ได้ทำร้ายลูกตัวเองแล้ว !

ดิฉันหยิบยกเรื่องนี้มาเขียนถึง เพราะต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำของผู้ที่เป็นพ่อแม่ มักส่งผลกระทบต่อลูกเสมอ กรณีนี้เป็นเรื่องการโกง !

ทั้งที่เด็กโตไปไม่โกงต้องเริ่มจากครอบครัว

จริงอยู่คำว่า “ดี” ในยุคสมัยปัจจุบัน มันช่างอรรถาธิบายยากขึ้นกว่าในอดีตมากมายเหลือเกิน เช่นเดียวกับ คำว่า “โกง” ก็ดูเหมือนต้องอรรถาธิบายกันให้กระจ่างยากขึ้นเช่นกัน

เนื่องเพราะเดี๋ยวนี้ทั้งทัศนคติและค่านิยม รวมถึงวิธีคิดของผู้คนที่มุ่งเน้นไปสู่เป้าหมายและผลลัพธ์โดยไม่สนใจถึงวิธีการว่า เป็นการเอาเปรียบผู้อื่น ลิดรอนสิทธิผู้อื่น โกงผู้อื่น หรือโลภก็ตาม ขอเพียงให้ตนเองไปสู่เป้าหมายเท่านั้นเป็นพอ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นทุกขณะ

ทุกวันนี้ปัญหาเรื่องการโกง ปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นเต็มบ้านเต็มเมือง เด็ก ๆ เติบโตมาท่ามกลางสังคมคอร์รัปชั่นในทุกระดับอย่างโจ่งครึ่ม แล้วเด็กจะทำอย่างไร ในเมื่อเห็นอยู่ทุกวี่วัน

ยิ่งถ้าเห็นจากคนในครอบครัวล่ะ !

ฉะนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อแม่ไม่ควรปล่อยผ่าน และควรจะนำมาเป็นกรณีศึกษา หรือบทเรียนชีวิตในการพูดคุยกันในครอบครัว

เรื่องการปลูกฝังให้ลูกโตไปไม่โกงสามารถทำได้ตั้งแต่เล็ก พ่อแม่อย่าคิดว่าลูกเล็กยังไม่เข้าใจ รอให้ลูกโตก่อน เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะเมื่อรอให้ลูกโตแล้ว การแก้ปัญหาย่อมยากกว่าการปลูกฝัง

สิ่งที่พ่อแม่ควรปลูกฝังคือ การสอนให้ลูกแยกแยะระหว่างความดีความชั่ว ระหว่างถูกผิด ระหว่างสิ่งที่เหมาะและไม่เหมาะ สามารถปลูกฝังได้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่วัยเด็กเล็กก็สามารถทำได้ เช่น เมื่อลูกเห็นเพื่อนเล่นของเล่นแล้วอยากเล่นบ้าง ก็ต้องบอกลูกว่านั่นไม่ใช่ของ ๆ เรา เราไปแย่งเขาไม่ได้ แต่เราสามารถยืมได้ แต่ต้องร้องขอ และเมื่อเล่นเสร็จแล้วก็ต้องคืนเจ้าของ แรก ๆ เด็กอาจไม่เข้าใจ แต่เมื่อเราทำเป็นประจำ เด็กจะค่อย ๆ ซึมซับและเรียนรู้เรื่องความเป็นเจ้าของ และของของผู้อื่น และไม่ควรเอาของผู้อื่นมาเป็นของเรา

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน การที่พ่อแม่สามารถสอนจากเรื่องราวในชีวิตประจำวัน จะทำให้ลูกซึมซับได้ทุกวี่วัน ที่สำคัญอย่าคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ เพราะส่วนใหญ่เด็กที่โกง จะเริ่มจากโกงเล็ก ๆ ก่อน แล้วจากนั้นถึงจะโกงเรื่องที่ใหญ่ขึ้น

ประการต่อมา เรื่องการสร้างจิตสำนึก เป็นเรื่องด้านในของจิตใจที่จะต้องสอนให้ลูกละอายแก่ใจถ้าทำสิ่งไม่ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ และต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

ที่สำคัญต้องไม่ให้ค่ากับคนโกง เพราะสังคมยุคนี้ให้ความสำคัญและยกย่องคนเก่ง คนรวย โดยไม่ได้สนใจว่าคนเก่ง หรือคนรวยเหล่านั้นใช้วิธีใดถึงรวย ตรงกันข้ามควรให้ค่ากับคนดีและความดี แม้มันอาจจะไม่เห็นผลเร็ว แต่มันยั่งยืนและทำให้มีความสุข

แต่เหนือสิ่งอื่นใดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คือ พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่าง พ่อแม่ต้องไม่โกง เพราะถ้าพ่อแม่โกง ลูกก็จะได้รับแบบอย่างจากพ่อแม่โดยตรง ต่อให้พร่ำสอนอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะพ่อแม่ทำเป็นตัวอย่างอยู่ทุกวี่วัน หรือทำให้ลูกอีกต่างหาก

ในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมเรื่องกลโกงทุกรูปแบบที่เป็นข่าวคราวอยู่บ่อยครั้ง ก็เป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อแม่ต้องสร้างเกราะป้องกันที่เข้มแข็งภายในครอบครัว เพื่อสร้างภูมิต้านทานชีวิตที่ดีให้กับลูกให้รู้เท่าทัน และไม่ตกไปในกับดักของการโกง สอนให้เขาเรียนรู้และเคารพกฎหมาย กฎกติกาในทุกสิ่งที่ต้องเผชิญ

เพราะสุดท้ายแม้ช่วงแรกจะพยายามหาช่องทางในการโกงจนสำเร็จ แต่สิ่งที่คนเราหนีไม่พ้นคือกฎแห่งกรรม

ไม่มีใครอยู่ดีมีสุขตลอดไปเพราะการโกงหรอกค่ะ