รมว.พม. เชิญร่วมงาน MICE วิสาหกิจชุมชนแก้วิกฤตประเทศ ช่วยสร้างงาน กระจายรายได้สู่ชุมชน ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา “MICE วิสาหกิจชุมชนแก้วิกฤตประเทศ” พร้อมทั้งปาฐกถาพิเศษเชิงนโยบาย ในหัวข้อ “MICE วิสาหกิจชุมชนแก้วิกฤตประเทศ” ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สก.สว.) และมหาวิทยาลัยนเรศวร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2563 ณ ห้องประชุมมหาราช ศูนย์แสดงนิทรรศการและจัดการประชุมนานาชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก
นายจุติ กล่าวว่า การประชุมสัมมนา “MICE วิสาหกิจชุมชนแก้วิกฤตประเทศ” นับเป็นงานแรกที่จัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและจัดการประชุมนานาชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับชุมชนในพื้นที่ โดยอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) จะช่วยต่อยอดเศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศให้มีความเข้มแข็ง และมีความพร้อมในการสร้างงาน สร้างรายได้ ด้วยมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่และวิสาหกิจชุมชนเป็นสำคัญ เป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ภูมิภาค เสริมสร้างศักยภาพของชุมชนที่เข้มแข็งรวมทั้งเพิ่มทักษะในการบริหารจัดการและต่อยอดความยั่งยืนให้กับชุมชนในการทำธุรกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงของสังคมต่อไป
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เราสามารถทำร่วมกันได้ทั้งประเทศในระดับจังหวัดและภูมิภาค ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจสำคัญในการให้บริการสวัสดิการสังคมสำหรับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งราษฎรบนพื้นที่สูงโดยน้อมนำศาสตร์พระราชา พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ แต่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันดีงามไว้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการสร้างงาน สร้างรายได้ที่พอเพียงและมั่นคงให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ ตนได้ทดลองนั่งรถวีลแชร์ไฟฟ้า ประดิษฐ์โดยศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ (MOVE) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งต่อไปจะมีการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาและลดต้นทุนการผลิตให้มีราคาลดลงสำหรับประชาชนทั่วไป และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ นวัตกรรมเทคโนโลยี และร้านค้าจำหน่ายสินค้าชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาควิชาการในจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตรกำแพงเพชร สุโขทัย เพชรบูรณ์และตาก รวมกว่า 40 บูธ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ถึงพรุ่งนี้ (24 ก.ย. 63) เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมมหาราช ศูนย์แสดงนิทรรศการและจัดการประชุมนานาชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก