ที่ประะชุม ศบค.กทม. เผยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแนะนำสถานประกอบการ สถานบริการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
วันนี้ (15 ก.ย.) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) เป็นประธานการประชุม ศบค.กทม. ครั้งที่ 81/2563 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน กอ.รมน. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สืบเนื่องจากหลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ หน่วยงานภาครัฐของไทยรวมถึงกรุงเทพมหานคร จึงมีความกังวลว่าประเทศไทยอาจเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ขึ้นได้เช่นกัน ที่ประชุม ศบค.กทม. จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชุดตรวจของคณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อย เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแนะนำสถานประกอบการ สถานบริการ โดยเฉพาะ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามที่ทางราชการรวมถึงกรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มไทยชนะ รวมทั้งขอให้ชุดตรวจฯ กำชับผู้ประกอบการให้คำนึงถึงความหนาแน่นของประชาชนที่เข้าใช้บริการ จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำและสบู่ ในส่วนของประชาชนที่เข้าใช้บริการขอให้ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลตามมาตรฐานการใช้ชีวิตวิถีใหม่ อาทิ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงสถานประกอบการ สถานบริการที่มีผู้ใช้บริการแออัด นอกจากนี้ ศบค.กทม. ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหู เป็นตา แจ้งเบาะแสให้แก่กรุงเทพมหานครหากพบสถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานบริการแห่งใดไม่จัดเตรียม QR-Code ไทยชนะ หรือไม่กระตุ้นเตือนให้ประชาชนผู้ใช้บริการเช็กอินผ่านแอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มไทยชนะ และไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ขอให้แจ้งได้ที่ สายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือ Line@ อัศวิน คลายทุกข์ โดยค้นหาด้วย ไอดี (ID) @aswinbkk ร่วมเป็นหู เป็นตา ระมัดระวังผู้ลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ศบค.กทม. จึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นจุดอ่อนที่อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ขอให้แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ลักลอบเข้าประเทศ นอกจากนี้ ขอแจ้งเตือนไปยังผู้นำพาแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนนายจ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าว มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับผู้ให้ที่พักผู้ที่เข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นไม่ถูกจับกุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000 บาท ด้วยเช่นกัน