แพทย์สันนิษฐาน หนุ่มดีเจรับเชื้อโควิด-19 จากชาวต่างชาติที่มาใช้บริการในร้านหรือคนไทยที่มีเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ โอกาสแพร่เชื้อมีน้อย เพราะมีอาการไม่มาก แค่มีเสมหะ ไม่ไอหรือจาม ผลตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดและเสี่ยงสูงยังไม่มีใครติดเชื้อ หากมีการระบาดในร้านต้องมีคนแสดงอาการแล้ว
วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า หลังจากที่กองระบาดวิทยาได้มีการสอบสวนโรคผู้ต้องขังชายอายุ 37 ปี อาชีพดีเจ ซึ่งถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 ขณะอยู่ในบริเวณกักตัวของทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 101 วัน และผู้ที่สัมผัสใกล้ชิด พบว่ามีข้อมูลผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อรายนี้จะต้องดูย้อนหลัง 2 สัปดาห์คือวันที่ 15-29 ส.ค ก่อนตรวจพบติดเชื้อ วันที่ 16, 21 ส.ค. ผู้ติดเชื้อได้ไปทำงานเป็นดีเจที่ร้าน “3 วัน 2 คืน”สาขาพระราม 5 ช่วงเวลา 22.30-01.00 น.
นอกจากนี้ยังได้ไปทำงานที่ร้าน “3 วัน 2 คืน” สาขาพระราม 3 เมื่อวันที่ 17, 20, 22 ส.ค.เวลา 24.00-02.00 น. ส่วนวันที่ 18 ส.ค.ได้ไปทำงานที่ร้าน First Cafe ถนนข้าวสาร เวลา 21.00-24.00 น.
นพ.โสภณกล่าวอีกว่า ทีมงานได้ตรวจสอบผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ เพื่อหาข้อมูลว่ามีใครสแกนเข้าใช้บริการร้านในช่วงเวลาดังกล่าว และขณะนี้ได้ติดต่อไปยังผู้ที่สแกนแล้ว
ส่วนกลุ่มคนที่พบหรืออยู่ใกล้กับผู้ติดเชื้อในวันที่ 26 ส.ค.ขณะที่ไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ประกอบด้วยบิดาของผู้ป่วย ทนายความ เจ้าหน้าที่ศาล 2 คน และมีผู้ต้องขังที่อยู่ในบริเวณเดียวกันรวม 16 คน และเมื่อเสร็จสิ้นการตัดสินคดีแล้วในช่วงเย็นได้มีการรับผู้ติดเชื้อและผู้ต้องขังรายอื่นไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษ 8 คน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอีก 8 คน โดยได้มีการตรวจหาเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าไม่พบเชื้อ ยืนยันว่าในภาพรวมสามารถระบุผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูงได้ครบ สำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่ำรองลงมาอยู่ระหว่างการติดตาม และมีผลการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดแล้วเกือบ 200 ราย ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อ
ส่วนที่คอนโดมิเนียมที่พักของผู้ป่วย มีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ 6 คน ประกอบด้วย พ่อตา แม่ยาย ภรรยา น้องสาวภรรยา และลูก 2 คน ที่เป็นสมาชิกในครัวเรือนนั้น ผลตรวจห้องปฏิบัติการไม่พบสารพันธุกรรมของเชื้อ แต่แนะนำให้กักกันโดยเจ้าหน้าที่จะติดตามอาการทางเดินหายใจ อาการไข้ต่อจนครบ 14 วันนับจากวันที่พบกับผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย ในส่วนของผู้ที่อยู่ในศาลอาญา รัชดาฯ ได้มีตรวจได้มีการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 156 คน เป็นกลุ่มสัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ 146 คน ซึ่งผลตรวจคนกลุ่มนี้ไม่พบเชื้อเช่นเดียวกัน
นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี กล่าวว่า สภาพสถานที่ทำงานของผู้ติดเชื้อที่ร้าน 3 วัน 2 คืน ในจังหวัดนนทบุรี ภายในร้านได้มีการแยกได้แบ่งออกเป็น 2 โซน โซนละ 200 ตร.ม. คือโซนในร้านเป็นผับ และโซนนอกเป็นร้านอาหาร มีอากาศถ่ายเท ซึ่งเป็นโซนผู้ติดเชื้อทำงาน หลังจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงคือพนักงานภายในร้านทั้งหมด 20 คน และผู้รับบริการ 3 คนที่มีความเสี่ยงเดินผ่านผู้ติดเชื้อระหว่างเดินเข้าห้องน้ำ รวมผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 23 คน
หลังจากได้รายงานข้อมูลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี รับทราบ ได้มีบัญชาให้ประชุมกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งมีมติทั้งหมด 4 ข้อคือ
1. มีคำสั่งให้ปิดร้านดังกล่าวเป็นเวลา 3 วัน วันที่ 4-6 ก.ย. โดยทางสาธารณสุข มหาดไทยส่วนปกครองท้องถิ่นและ อสม. จะร่วมกันลงพื้นที่ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกร้าน
2. พนักงาน และผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 23 คน ต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่โรงพยาบาลบางกรวย 2 โดยเจ้าหน้าที่ตามกลับมาได้ 16 คน ส่วนอีก 7 คนอยู่ระหว่างการตามตัว
3. ผู้สัมผัสร่วมบ้านของ 23 คนข้างต้นให้กักตัวอยู่ที่บ้าน โดยมี อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และ
4. ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สงสัยหรือกังวลว่าจะสัมผัสผู้ป่วยในห้วงวันที่ 21-23 ส.ค.ให้มาตรวจได้ฟรีที่โรงพยาบาลบางกรวย 2
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศรจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการข้อสันนิษฐานคาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายนี้ อาจจะติดเชื้อมาจากการสัมผัสผู้ที่มาจากต่างประเทศ ในช่วงเวลากลางคืนที่ผู้ติดเชื้อทำงานอยู่ หรือติดมาจากในประเทศจากคนที่มีเชื้อแต่ไม่มีอาการ ซึ่งขณะนี้ถือว่าการแพร่เชื้อยังไม่รุนแรง เพราะผลการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดออกมาเป็นลบ
นพ.โสภณกล่าวเพิ่มเติมว่า สมมติฐานในเบื้องต้นจากการที่ผู้ป่วยรายนี้ไม่มีอาการมาก มีเสมหะ ไม่ได้ไอหรือจาม โอกาสที่จะเป็นผู้แพร่เชื้อก็น้อยลง ส่วนจะรับเชื้อมาจากใครนั้น จากกิจกรรมของผู้ป่วยโอกาสที่ผู้ป่วยพบผู้คนจำนวนมากนั้นมาจากการทำงานตอนกลางคืน โดยไม่ได้สุงสิงกับคนอื่นตลอดเวลาเพราะว่าทำงานแค่บางวัน ดังนั้นถ้าหากมองในแง่ของการเป็นคนที่มีอายุ 37 ปี ซึ่งอยู่ในวัยทำงานที่ร่างกายแข็งแรงก่อนจะตกเป็นผู้ต้องขัง จึงมีโอกาสที่จะรับเชื้อจากผู้อื่นที่อยู่ในวัยเดียวกันเป็นหลัก
นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศติดต่อกันยาวนาน ก็มีโอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาใช้บริการ แต่ถ้าเรามีการป้องกัน สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ไม่ได้คลุกคลีใกล้ชิดโอกาสที่ติดเชื้อก็จะอยู่ในระดับที่น้อย ซึ่งอาจจะไม่เห็นกลุ่มก้อนของคนติดเชื้อในสถานที่เดียวกันเป็นจำนวนมาก เพราะถ้าหากมีการระบาดในร้านก็จะรู้ทันทีว่ามีคนป่วยเป็นอาการทางเดินหายใจหลายราย
ทั้งนี้ จากข้อมูลในประเทศไทย และรายงานจากต่างประเทศ คนติดเชื้อ 80% ไม่ได้แพร่เชื้อต่อ มีแค่ 20% ที่มีโอกาสแพร่เชื้อ ดูจากคนในครอบครัวใกล้ชิดที่สุด 5 คน อยู่ด้วยกันก่อนวันที่ 26 ส.ค.อย่างต่อเนื่องก็ยังไม่ได้รับเชื้อ
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวอย่างเชื้อที่ได้จากผู้ป่วยรายดังกล่าวมาถอดรหัสพันธุกรรม โดยจะต้องใช้เวลาสักพักก็จะได้คำตอบว่าเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ไหน