สธ.แถลงยันยืนผู้ต้องขังใหม่ติดเชื้อโควิดจริง เผยติดเชื้อก่อนเข้าเรือนจำ เพิ่งรับตัวจากศาลอาญาขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เมื่อ 26 ส.ค. แยกในห้องกักกันโรค 14 วันตามมาตรการ กระทั่งพบติดเชื้อโควิด-19
วานนี้ (3 ก.ย.) น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า มีผู้ต้องขังในเรือนจำติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย โดยผลตรวจครั้งแรกพบเป็นบวก ขณะนี้รอผลตรวจเลือดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค กำลังประชุมผู้บริหาร ก่อนเปิดเผยข้อเท็จจริง โดยได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรับทราบแล้ว พร้อมกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข รวมรวบข้อมูลให้ตรงกัน และแจ้งให้ประชาชนรับทราบ
“สันนิษฐานว่า อาจเป็นซากเชื้อ หรือเชื้อตาย แต่ได้ส่งตัวผู้ป่วยเข้าแยกกักกันในห้องแยกโรค ภายในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์แล้ว ส่วนนักโทษอื่นๆ ยังไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เนื่องจากทุกเรือนจำ เคร่งครัดในมาตรการคัดกรอง โดยนักโทษเข้าใหม่ทุกคน ต้องผ่านการกักตัว 14 วัน ภายในแดนแรกรับ ในห้องมีผู้ต้องขังอื่นร่วมด้วย 30 คน แต่ตรวจแล้วไม่พบว่าติดเชื้อ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แยกทั้ง 30 คนไว้แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 50 คนมากักตัวไว้ก่อน” น.พ.ทวีศิลป์ ระบุ
ต่อมา พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีผู้ต้องขัง 1 ราย ติดเชื้อโควิด โดยผู้ต้องขังรายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทางเรือนจำได้แยกขังตามระเบียบเพื่อกักตัว 14 วัน จากนั้น มีการตรวจซ้ำจึงพบว่ามีเชื้อโควิด อย่างไรก็ดีขอยืนยันว่า ไม่ได้มีผลกระทบกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพราะได้แบ่งแยกพื้นที่อย่างชัดเจน
ก่อนที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะแถลงผลตรวจพบนักโทษติดโควิด-19 โดย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา เปิดเผยว่า พบผู้ต้องขังชาย อายุ 37 ปี สัญชาติไทย ต้องโทษคดียาเสพติด ที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าเรือนจำติดโควิด-19 โดยผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรับทราบข้อมูลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทราบผลจากเรือนจำและมีมาตรการกักกันก่อนเข้าเรือนจำ หลังรับรายงานได้ตรวจสอบยืนยัน 2 แห่ง ผลออกมาพบติดเชื้อจริง จึงส่งทีมไปสอบสวนโรค พบผู้ป่วยมีอาการเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยมีเสมหะ และวันที่ 2 ก.ย. ได้เก็บสารไปตรวจสอบและพบเชื้อ ทั้งนี้ จากการซักประวัติย้อนหลังไม่พบว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศ อาศัยกับครอบครัวในคอนโดบ้านสวนธน พุทธบูชา ย่านบางมด กทม. โดยพบผู้มีความเสี่ยงสูงในครอบครัว 5 คน อยู่ระหว่างติดตาม 2 คน เบื้องต้นพบว่าเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งนี้ผู้ป่วยทำงานเป็นดีเจอยู่ร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม 3 และพระราม 5 รวมไปถึงร้าน First Cafe ย่านถนนข้าวสาร แต่เบื้องต้นด้วยลักษณะอาชีพไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่น
ทั้งนี้ถือว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นคนแรกในรอบ 100 วัน หลังจากช่วงก่อนหน้านี้พบเพียงผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกันเท่านั้น
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้เปิดเผยประวัติการเดินทางและสถานที่ย้อนหลัง 14 วันของผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวด้วยว่า ช่วงวันที่ 12-26 ส.ค. อาศัยอยู่ในคอนโดบ้านสวนธนกับครอบครัว พุทธบูชา บางมด โดยคนในครอบครัว 5 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการเก็บเชื้อส่งตรวจแล้ว และแยกกักกันต่อไป
ระหว่างนั้นได้ทำงานเป็นดีเจที่ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 ในวันจันทร์,พฤหัสบดี และเสาร์ ส่วนร้าน 3 วัน 2 คืนสาขาพระราม 5 เข้าทำงานวันศุกร์ และอาทิตย์ มีเพียงวันที่ 18 ส.ค. ที่มาทำงาน ที่ร้าน First Cafe ย่านถนนข้าวสาร ก่อนที่ในวันที่ 26 ส.ค. จะขับรถยนต์ส่วนตัวไปขึ้นศาลอาญารัชดา พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกประมาณ 20 คน ได้แก่ ทนายความ 1 คน, เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน, นักโทษที่ร่วมตัดสินคดีร่วม 2 คน และนักโทษผู้ร่วมรถโดยสาร 15 คน ส่วนในเรือนจำได้แยกกักกันผู้ต้องขังแรกรับในช่วงเวลาเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ จำนวน 34 คน ได้มีการตรวจเชื้อและกักตัวทั้งหมดแล้ว
วานนี้ (3 ก.ย.) น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า มีผู้ต้องขังในเรือนจำติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย โดยผลตรวจครั้งแรกพบเป็นบวก ขณะนี้รอผลตรวจเลือดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค กำลังประชุมผู้บริหาร ก่อนเปิดเผยข้อเท็จจริง โดยได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯรับทราบแล้ว พร้อมกำชับให้กระทรวงสาธารณสุข รวมรวบข้อมูลให้ตรงกัน และแจ้งให้ประชาชนรับทราบ
“สันนิษฐานว่า อาจเป็นซากเชื้อ หรือเชื้อตาย แต่ได้ส่งตัวผู้ป่วยเข้าแยกกักกันในห้องแยกโรค ภายในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์แล้ว ส่วนนักโทษอื่นๆ ยังไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เนื่องจากทุกเรือนจำ เคร่งครัดในมาตรการคัดกรอง โดยนักโทษเข้าใหม่ทุกคน ต้องผ่านการกักตัว 14 วัน ภายในแดนแรกรับ ในห้องมีผู้ต้องขังอื่นร่วมด้วย 30 คน แต่ตรวจแล้วไม่พบว่าติดเชื้อ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แยกทั้ง 30 คนไว้แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 50 คนมากักตัวไว้ก่อน” น.พ.ทวีศิลป์ ระบุ
ต่อมา พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวยอมรับว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า มีผู้ต้องขัง 1 ราย ติดเชื้อโควิด โดยผู้ต้องขังรายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทางเรือนจำได้แยกขังตามระเบียบเพื่อกักตัว 14 วัน จากนั้น มีการตรวจซ้ำจึงพบว่ามีเชื้อโควิด อย่างไรก็ดีขอยืนยันว่า ไม่ได้มีผลกระทบกับผู้ต้องขังรายอื่นๆ เพราะได้แบ่งแยกพื้นที่อย่างชัดเจน
ก่อนที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะแถลงผลตรวจพบนักโทษติดโควิด-19 โดย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา เปิดเผยว่า พบผู้ต้องขังชาย อายุ 37 ปี สัญชาติไทย ต้องโทษคดียาเสพติด ที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าเรือนจำติดโควิด-19 โดยผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรับทราบข้อมูลตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทราบผลจากเรือนจำและมีมาตรการกักกันก่อนเข้าเรือนจำ หลังรับรายงานได้ตรวจสอบยืนยัน 2 แห่ง ผลออกมาพบติดเชื้อจริง จึงส่งทีมไปสอบสวนโรค พบผู้ป่วยมีอาการเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยมีเสมหะ และวันที่ 2 ก.ย. ได้เก็บสารไปตรวจสอบและพบเชื้อ ทั้งนี้ จากการซักประวัติย้อนหลังไม่พบว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศ อาศัยกับครอบครัวในคอนโดบ้านสวนธน พุทธบูชา ย่านบางมด กทม. โดยพบผู้มีความเสี่ยงสูงในครอบครัว 5 คน อยู่ระหว่างติดตาม 2 คน เบื้องต้นพบว่าเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งนี้ผู้ป่วยทำงานเป็นดีเจอยู่ร้านสามวันสองคืน สาขาพระราม 3 และพระราม 5 รวมไปถึงร้าน First Cafe ย่านถนนข้าวสาร แต่เบื้องต้นด้วยลักษณะอาชีพไม่ได้สัมผัสกับผู้อื่น
ทั้งนี้ถือว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นคนแรกในรอบ 100 วัน หลังจากช่วงก่อนหน้านี้พบเพียงผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกันเท่านั้น
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังได้เปิดเผยประวัติการเดินทางและสถานที่ย้อนหลัง 14 วันของผู้ติดเชื้อรายใหม่ดังกล่าวด้วยว่า ช่วงวันที่ 12-26 ส.ค. อาศัยอยู่ในคอนโดบ้านสวนธนกับครอบครัว พุทธบูชา บางมด โดยคนในครอบครัว 5 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มีการเก็บเชื้อส่งตรวจแล้ว และแยกกักกันต่อไป
ระหว่างนั้นได้ทำงานเป็นดีเจที่ร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 ในวันจันทร์,พฤหัสบดี และเสาร์ ส่วนร้าน 3 วัน 2 คืนสาขาพระราม 5 เข้าทำงานวันศุกร์ และอาทิตย์ มีเพียงวันที่ 18 ส.ค. ที่มาทำงาน ที่ร้าน First Cafe ย่านถนนข้าวสาร ก่อนที่ในวันที่ 26 ส.ค. จะขับรถยนต์ส่วนตัวไปขึ้นศาลอาญารัชดา พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกประมาณ 20 คน ได้แก่ ทนายความ 1 คน, เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน, นักโทษที่ร่วมตัดสินคดีร่วม 2 คน และนักโทษผู้ร่วมรถโดยสาร 15 คน ส่วนในเรือนจำได้แยกกักกันผู้ต้องขังแรกรับในช่วงเวลาเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ จำนวน 34 คน ได้มีการตรวจเชื้อและกักตัวทั้งหมดแล้ว
