รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงปัญหาลืมเด็กนักเรียนบนรถรับ-ส่ง แนะนำผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ประจำรถ ครู ทำบัญชีรายชื่อเด็กที่ขึ้นรถ ลงชื่อทุกครั้งที่มีการขึ้นรถ-ลงรถ ป้องกันเกิดเหตุสลดซ้ำ
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพ “ผู้พิทักษ์อนามัยโรงเรียน” ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กำกับติดตามประเมินผลการจัดการเรียนการสอนและการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของสถานศึกษาแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา และจัดตั้ง “ผู้พิทักษ์อนามัยโรงเรียน” ซึ่งเป็นจิตอาสาที่เป็นข้าราชการบำนาญ ด้านการแพทย์ การพยาบาล การสาธารณสุข และการศึกษา จังหวัดละ 2 คน ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ให้ความรู้การดูแลสุขภาพ ติดตามการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ และรายงานผลมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การควบคุมป้องกันโรค เป็นไปตามมาตรฐาน ปลอดภัยสูงสุด
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า จากการทดลองเปิดการเรียนการสอน พบว่า สถานศึกษาทุกแห่งรับทราบแนวทางและปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการป้องกันโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทั้งการตรวจคัดกรอง วัดไข้ การรักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย และขณะนี้สถานศึกษาทุกระดับทั่วประเทศ ได้เปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว ขอความร่วมมือให้เคร่งครัดการปฏิบัติตามคำแนะนำ ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก อย่างไรก็ตาม มีอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้นในสถานศึกษาเช่นกัน และกำลังเป็นข่าวในขณะนี้ คือ การลืมเด็กไว้ในรถรับ-ส่งนักเรียน ล่าสุด เกิดกับเด็ก 2 ขวบในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้
ทั้งนี้ กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ได้เฝ้าระวังข่าวจากสื่อตั้งแต่ปี 2557 ถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2563 พบประเด็นที่น่าสนใจ คือ มีเหตุการณ์เด็กที่ถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถตามลำพัง 129 เหตุการณ์ เป็นเด็กอายุ 2 ปี มากที่สุด ร้อยละ 38.0 รองลงมา คือ เด็กอายุ 1 ปีและ 3 ปี ร้อยละ 20.9 และ 19.4 ตามลำดับ เกิดขึ้นในรถยนต์ส่วนบุคคลมากที่สุดร้อยละ 96.0 โดยมีเด็กเสียชีวิต 6 ราย เป็นเพศหญิง 3 ราย เพศชาย 3 ราย อายุระหว่าง 2-6 ปี ทั้ง 6 รายที่เสียชีวิตเกิดเหตุขึ้นในรถรับส่งนักเรียน 5 ราย และรถยนต์ส่วนบุคคล (ของครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 ราย) ทั้งหมดถูกลืมทิ้งไว้นานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป โดยเด็กนอนหลับ และรถถูกจอดไว้หลังจากรับส่งนักเรียนเสร็จ
ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นและสามารถป้องกันได้ ด้วยความร่วมมือของผู้ปกครอง พนักงานขับรถรับ-ส่งนักเรียน เจ้าหน้าที่ประจำรถและครูผู้ดูแลเด็กนักเรียน กรณีที่เด็กขึ้นรถรับ-ส่ง พนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่ประจำรถที่รับเด็ก ต้องทำบัญชีรายชื่อเด็กทั้งหมดที่ขึ้นรถผู้ปกครองลงชื่อเมื่อส่งลูก เจ้าหน้าที่ประจำรถลงชื่อรับเมื่อเด็กขึ้นรถจากบ้าน และเมื่อเด็กถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียน ครูประจำห้องเด็กต้องลงชื่อรับ และผู้ปกครองลงชื่อรับเมื่อรถส่งถึงบ้าน ส่วนกรณีผู้ปกครองมารับ-ส่งเอง ครูประจำห้องของเด็กต้องลงชื่อรับ เมื่อผู้ปกครองเด็กมาส่งถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียน และผู้ปกครองลงชื่อรับเด็กเมื่อเลิกเรียน หากเด็กขาดเรียน ครูประจำห้องเด็กต้องสอบถามเสมอทุกวัน หากทำครบถ้วนจะป้องกันเรื่องลืมเด็กติดรถ และเด็กสูญหายได้เป็นอย่างดี