อาชีพเชฟยังคงเป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ แต่ใครจะสามารถก้าวไปถึงฝั่งฝันได้ ต้องอาศัยหลายองค์ประกอบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ปลุกความเป็นเชฟ สำหรับน้องๆที่อยากเป็นเชฟ
เชฟท็อป-กิตติ ดรุกาญจน์พฤฒิ สุดยอดเชฟนักล่ารางวัลทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ปัจจุบันเปิดร้านสเต็ก ชื่อ “The Black Sheep” ที่จังหวัดจันทบุรี ควบคู่กับการทำสวนผลไม้ ทุเรียน และมังคุด เปิดเผยว่า น้องๆ ที่อยากเป็นเชฟ ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการเป็นคนที่ชอบทานอาหารหลากหลายก่อน รู้จักสังเกตแล้วจึงมาฝึกทำทานเอง หรือกับคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ต้องอาศัยความชอบจริงๆ เพราะอาชีพเชฟเป็นงานหนักและต้องมีความอดทนสูง จะเห็นว่าเชฟส่วนมากเริ่มมาจากเด็กล้างจาน กว่าจะได้มาเป็นเชฟต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์และต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
เชฟท็อปได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นเชฟของตนเองว่า ตนเป็นศิษย์เก่านิวซีแลนด์ มีโอกาสได้ไปเรียนที่นิวซีแลนด์ตั้งแต่มัธยม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มอยากทำอาหาร เพราะอยากทานอาหารไทย ก็เลยเริ่มฝึกทำอาหารทานกับเพื่อนคนไทยที่อยู่หอด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้คิดว่าวันหนึ่งจะเป็นเชฟ จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี (BSc in Microbiology จาก University of Otago) ระหว่างหางานทำ ได้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารตุรกีในเมือง Dunedin ก็รู้สึกชอบ เพราะเชฟที่ร้านได้สอนให้ทำหลายอย่าง เช่น การทำซอส การหมักเนื้อสัตว์ ซึ่งก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเราไม่เคยสัมผัสอาหารตุรกีมาก่อน จากนั้นได้ย้ายมาทำที่ร้านอาหารไทยที่เมือง Wellington ทำให้รู้สึกชอบในการทำอาหารมากยิ่งขึ้น เลยตัดสินใจเรียนต่อด้านอาหารที่ Wellington Institute of Technology
หลักสูตรที่เรียนคือ Certificate and Diploma in Culinary Arts เป็นหลักสูตร 1 ปี การเรียนการสอนจะปูพื้นฐานด้านทฤษฏีก่อนและจะเน้นการปฏิบัติเยอะมาก ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ครบครันและทันสมัย แต่ละห้องมีนักเรียนไม่มากแค่ 20 กว่าคน ทำให้อาจารย์ดูแลได้ทั่วถึง สอนเทคนิคต่างๆได้เป็นอย่างดี อาจารย์แต่ละท่านก็เป็นเชฟในโรงแรมและร้านอาหารมาก่อน จึงสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ได้ดี นักเรียนได้ไปฝึกงานตามร้านอาหารหรือโรงแรมถึง 2 ครั้ง และยังได้ฝึกทำงานจริงในครัวของร้านอาหารของสถาบันอีกด้วย ซึ่งสนุกมากเมื่อเราและเพื่อนๆในห้อง ได้แบ่งหน้าที่กันและจัดการห้องครัว ทำอาหารให้ลูกค้าจริงๆได้ทาน โดยมีเชฟอาจารย์คอยให้คำแนะนำ ดูแลในครัว เป็นการฝึกให้เราทำงานเป็นทีม เพราะภายใต้แรงกดดันในครัวการทำงานเป็นทีมจะทำให้งานนั้นสำเร็จได้
“ที่เลือกเรียนทำอาหารเพราะชอบทำอาหาร และอยากทำอาหารที่ดีทีสุดให้ทุกคนได้รับประทาน การเรียนที่นิวซีแลนด์ ส่งผลต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่วางพื้นฐานด้านวิชาการแต่ยังให้ประสบการณ์ด้านอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การทำงาน และมิตรภาพที่ดีจากอาจารย์และเพื่อนๆ ตอนเรียนมีโอกาสได้ไปฝึกงานกับร้านอาหารดังๆ หลายแห่งที่นิวซีแลนด์ ทำให้เรามีความมั่นใจในการทำอาหารมากขึ้น บวกกับความสามารถด้านการใช้ภาษาที่ดีขึ้น และกำลังใจที่ดีของเพื่อนๆชาวกีวี่และชาวต่างชาติ ทำให้ผมได้พัฒนาทักษะทางด้านภาษาและการทำอาหารได้ดีขึ้นด้วย”
นับถึงวันนี้เชฟท็อป เป็นเชฟมาแล้วเกือบ 10 ปี การันตีด้วยรางวัลมากมาย ทั้งระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เช่น Best of Western Cuisine (งาน Thailand International Culinary Cup 2017) การแข่งขันทำอาหารระดับนานาชาติที่ได้รับโอกาสจากทาง Thailand Culinary Academy ให้ไปร่วมฝึกซ้อมและแข่งขันที่ประเทศ อินโดนีเซีย ในรายการ Indonesian Salon Culinaire 2017 (เหรียญที่ได้ 1 ทอง, 1 เงิน และ 1 ทองแดง) และรายการใหญ่ระดับเอเชียคือ รายการ Food and Hotel Asia 2018 (FHA) ที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมแข่งประเภททีม ซึ่งทีมไทยได้เหรียญทองในรายการนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการส่งทีมไปแข่งในรายการนี้