รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย กทม.เล็งใช้ ปว.44 กำจัดซากรถ เร่งเคลียร์ 171 จุดผ่อนผัน ที่ยังไม่ยกเลิก พร้อมสั่งเทศกิจคุมเข้มพื้นที่ชุมนุม หวั่นโควิด-19 แพร่ระบาด
วันนี้ (13 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 5/2563 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมี ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมภาคย์ สุขอนันต์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกรุงธน 3 สำนักเทศกิจ
ตามที่ สำนักเทศกิจ ได้ดำเนินนโยบายจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย และจัดทำแผนปฏิบัติการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย เพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเพื่อยกเลิกจุดผ่อนผันให้ครอบคลุมพื้นที่ 50 สำนักงานเขต จำนวน 683 จุด ณ ปัจจุบันได้ดำเนินการประกาศยกเลิกจุดผ่อนผันเรียบร้อยแล้ว จำนวน 512 จุด ยังเหลือจุดผ่อนผันที่อยู่ระหว่างดำเนินการยกเลิกอีก จำนวน 171 จุด ในพื้นที่ 18 สำนักงานเขต สำหรับการแก้ไขปัญหาวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีสถานที่ตั้งวินอยู่บนทางเท้าสาธารณะ จากการสำรวจวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่จอดบนทางเท้ามีจำนวน 1,167 วิน ปัจจุบันสำนักงานเขตได้ผลักดันให้วินรถจักรยานยนต์รับจ้างลงไปจอดในบริเวณที่ไม่ใช่ทางเท้าแล้ว จำนวน 340 วิน ส่วนการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 61-10 ส.ค. 63 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 34,492 ราย ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย ดำเนินคดี 28,859 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,803 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 35,645,900 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. 63 สำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 193 ราย แยกเป็น ประชาชนทั่วไป 174 ราย วินจักรยานยนต์ 7 ราย แกร็บ 12 ราย ปรับเป็นเงิน 355,000 บาท และการดำเนินการกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 61-10 ส.ค. 63 สำนักงานเขต จัดเก็บได้ 169,046 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 50 ราย จับ-ปรับ 4,023 คดี ปรับเป็นเงิน 12,466,800 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-10 ส.ค. 63 สำนักงานเขตจัดเก็บได้ 1,533 ป้าย จับปรับ 29 คดี ปรับเป็นเงิน 50,200 บาท ด้านโครงการเทศกิจ School Care ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและจัดให้เว้นระยะห่าง (Social Distancing) ตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) บริเวณหน้าโรงเรียน จำนวน 805 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 400 โรงเรียน สังกัด สพฐ. 114 โรงเรียน และสังกัดเอกชน 291 โรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงาน รวมทั้งสิ้น 2,158 ราย รวมทั้งนโยบายการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ จากการสำรวจเบื้องต้น มีจำนวน 400 คัน ปัจจุบันดำเนินการยกซากรถไปแล้ว 85 คัน คงเหลือ 315 คัน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์โควิด 19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะไม่พบผู้ติดเชื้อมากว่า 80 วัน แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ยังต้องระมัดระวัง การ์ดต้องไม่ตก แม้ว่าสถานการณ์การติดเชื้อจะมาจากผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศก็ตาม ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจในการออกปฏิบัติงานยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเหมือนเดิม รวมทั้งให้กวดขันสถานบริการในพื้นที่ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด รวมทั้งขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มมาชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพระนคร ปทุมวัน จตุจักร ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำให้รักษาวินัยและแต่งกายให้เรียบร้อย สำหรับนโยบายการจัดระเบียบทางเท้าด้านอื่นๆ อาทิ จอดรถหรือขับขี่บนทางเท้า ป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดระเบียบผู้ค้า และความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยอื่นๆ ยังคงต้องเข้มงวดกวดขันเช่นที่ผ่านมา เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานคร
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจุดผ่อนผันที่ยังไม่ได้ประกาศยกเลิก จำนวน 171 จุด ได้มอบหมายสำนักงานเขตทั้ง 18 เขต จัดทำแผนและเร่งดำเนินการ หากจุดผ่อนผันใดมีศักยภาพ สามารถเป็นพื้นที่ทำการค้า และเป็นไปตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 ม.ค. 63 ให้เสนอคณะกรรมการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานครพิจารณา เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าตามประกาศฉบับใหม่ต่อไป ส่วนจุดผ่อนผันจุดใดที่ปัจจุบันไม่มีผู้ค้าแล้ว หรือมีผู้ค้าจำนวนไม่ถึง 10 ราย และขัดต่อประกาศฉบับใหม่ ให้เสนอเรื่องขอยกเลิกมายังสำนักเทศกิจ เพื่อเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงนามประกาศยกเลิกต่อไป โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 63 ส่วนการกวดขันผู้ฝ่าฝืนจอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าสาธารณะ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจทุกสำนักงานเขตดำเนินการอย่างเข้มงวดและจริงจัง และให้สับเปลี่ยนหมุนเวียนจุดกวดขันให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่เขต รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการกวดขันให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพบว่ายังมีการฝ่าฝืนอย่างต่อเนื่อง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ด้านการแก้ไขปัญหาวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ตั้งอยู่บนทางเท้า ได้มอบหมายให้ทุกสำนักงานเขตเร่งสำรวจพื้นที่เพิ่มเติม หากจุดใดสามารถดำเนินการย้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างออกจากทางเท้าได้ ให้ดำเนินการทันที รวมทั้งการจัดเก็บป้ายที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้กวดขันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของป้ายโฆษณาสินค้า บ้านจัดสรร คอนโด หรือป้ายหาเสียง รวมถึงโครงการเทศกิจ School Care ซึ่งเป็นโครงการปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนทั้งของกรุงเทพมหานครและสังกัดอื่นๆ รวมทั้งสถานที่สำคัญๆ โดยบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ โดยให้ทุกสำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร รวมทั้งกวดขันผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย บริเวณหน้าโรงเรียน รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า สำหรับการยกซากรถยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ ได้มอบหมายสำนักงานเขตตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง น่าจะมีจำนวนมากกว่า 400 คัน และอาจพิจารณาใช้คำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 หรือ ปว.44 เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการยกและกำจัดซากรถยนต์ พร้อมทั้งให้เขตสำรวจพื้นที่เพื่อเป็นสถานที่จัดเก็บซากรถเป็นการชั่วคราว โดยในอนาคตจะขอใช้พื้นที่ของกรุงเทพมหานครที่เป็นที่ว่างเพื่อรองรับต่อไป สำหรับอุปกรณ์ในการยกซาก (รถยก) เบื้องต้นได้มอบหมายสำนักเทศกิจประสานกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง กทม. ในการดำเนินการ ส่วนในระยะยาวจะขอจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถยกและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่สำนักงานเขตต่อไป โดยภายในสัปดาห์หน้าจะจัดทำตารางแผนการทำงานเพื่อให้แต่ละสำนักงานเขตเริ่มดำเนินการจัดระเบียบยกซากรถยนต์ในพื้นที่ต่อไป