รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ยกซากรถยนต์อย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นซากรถกีดขวางสร้างความเดือดร้อนแจ้งได้ที่ฝ่ายเทศกิจ 50 เขต ผู้แจ้งจะได้ส่วนแบ่งค่าปรับครึ่งหนึ่ง
(13 ส.ค. 63) เวลา 10.00 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนน หรือสถานสาธารณะในพื้นที่เขตพระนคร โดยมี นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงพื้นที่ และมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร รายงานสภาพปัญหาและผลการดำเนินการแก้ไขปัญหา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่กองโรงงานช่างกล เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 32 คน ร่วมกันดำเนินการขนย้ายซากรถยนต์ ณ ซอยรามบุตรี เขตพระนคร
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการติดตามเรื่องการยกซากรถยนต์ในเขตพระนคร ซึ่งเป็นการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อติดตามเรื่องการยกซากรถยนต์ในกรุงเทพมหานครตามนโยบายของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เข้มงวดปัญหาการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก เนื่องจากกีดขวางการจราจร มีผลด้านความปลอดภัยและในส่วนของความมั่นคงจากการก่อวินาศกรรม โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งมาว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีประมาณ 400 คัน ได้ดำเนินการยกซากรถเคลื่อนย้ายแล้ว 85 คัน คงเหลือ 315 คัน
ในส่วนของพื้นที่เขตพระนครนั้น มีซากรถ 31 คัน ดำเนินการยกซากรถเคลื่อนย้ายแล้ว 12 คัน คงเหลือ 19 คัน ซึ่งในวันนี้สำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับ สำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล และ สน.ชนะสงคราม จัดเก็บซากรถอีกจำนวน 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์โตโยต้า สีดำ และรถยนต์ฮุนได สีเขียว ไม่มีป้ายทะเบียน โดยใช้กำลังสนับสนุนเป็นรถยก 1 คัน และรถบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้ายซากรถ 2 คัน จากกองโรงงานช่างกล ซึ่งจะนำซากรถดังกล่าวไปจัดเก็บเป็นของกลางซากรถยนต์ที่บริเวณสวนพระปกเกล้า ถนนจักรเพชร โดยผู้อำนวยการสำนักเทศกิจพร้อมคณะผู้บริหารเขตพระนครจะตรวจสถานที่จัดเก็บของกลางซากรถยนต์บริเวณดังกล่าวต่อไป ทำให้ในพื้นที่เขตพระนครคงเหลือซากรถอีก 17 คัน และจะทยอยเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมแนวดิ่งหัวหน้าฝ่ายเทศกิจจาก 50 สำนักงานเขต เพื่อจัดตารางแผนงานโดยสำนักเทศกิจในการดำเนินการจัดเก็บซากรถในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งต้องมีหารือการประสานงานในส่วนของรถยก สถานที่กลางจัดเก็บซากรถ การจัดสรรงบประมาณและการจัดหาอุปกรณ์ให้ครบถ้วน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่หลายหน่วยงาน เช่นกรุงเทพมหานครและตำรวจนครบาล โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ในการเข้ามาจัดการดูแล สำหรับกรุงเทพมหานครได้มีการมอบนโยบายการจัดระเบียบการจอดทิ้งซากรถยนต์ไว้บนถนนหรือสถานสาธารณะโดยได้สั่งการให้เทศกิจทุกสำนักงานเขตดำเนินการสำรวจปัญหาในพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งมาว่ามีประมาณ 400 คัน และอาจมีมากกว่านี้ จึงได้กำชับให้เทศกิจดำเนินการสำรวจเพิ่มเติม
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนที่เป็นเจ้าของซากรถที่จอดตามสถานที่สาธารณะกีดขวางทางจราจรและสร้างความเดือดร้อน ให้เคลื่อนย้ายซากรถดังกล่าวเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการจอดทิ้งซากรถยนต์สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต ซึ่งหากมีการจับปรับเกิดขึ้น ประชาชนผู้แจ้งจะได้ส่วนแบ่งค่าปรับดังกล่าวครึ่งหนึ่งเช่นเดียวกับการแจ้งเบาะแสการขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า ซึ่งอัตราการเปรียบเทียบปรับเป็นไปตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ห้ามมิให้ผู้ใดทิ้ง วาง หรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ และบทกำหนดโทษ มาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจจะกำหนดอัตราเปรียบเทียบปรับเบื้องต้นไว้ที่ 2,500 บาท ตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากรถยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กรุงเทพมหานครจะนำไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป