อธิบดีกรมศิลป์ เผยผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากรแจงผลตรวจสอบสภาพบานประตูวิหารวัดหมื่นล้าน จ.เชียงใหม่ ถูกทาสีทับ 3 ชั้น “สีประเภทเรซิ่น-สีน้ำมัน-สีน้ำมันสีดำ” ยันแก้ไขได้ คาด ใช้เวลา 1 เดือน
นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้นักวิทยาศาสตร์เชี่ยวชาญ จากกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพบานประตูวิหารวัดหมื่นล้านโดยละเอียด หลังจากมีการทาสีทับลายรดน้ำบนบานประตูวิหารนั้น ล่าสุด ได้รับรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าชั้นของสีที่ทาทับบนบานประตูวิหารวัดหมื่นล้าน ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 ชั้นรองพื้นประเภทเรซิ่น เป็นการปรับพื้นผิวบานประตูให้เรียบเสมอกัน ชั้นที่ 2 สีน้ำมัน (ที่นิยมใช้รองพื้นก่อนปิดทอง) สีแดง มีลักษณะบาง และชั้นที่ 3 สีน้ำมันสีดำ
ทั้งนี้ กระบวนการละลายชั้นสีที่ทาทับ ที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ ชั้นที่ 1 ชั้นรองพื้นประเภทเรซิ่น เพราะเป็นวัสดุที่ไม่มีตัวทำละลาย และหากปล่อยไว้จะทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้แข็งตัวจับยึดแน่นกับภาพลายรดน้ำเดิม ซึ่งชั้นเรซิ่นนี้มีชั้นสีน้ำมันทาทับอยู่ จึงยังไม่แข็งตัวสามารถละลายออกได้ โดยเมื่อดำเนินการจะต้องประคองสภาพไม่ให้ชั้นเรซิ่นแข็งตัวเร็วขึ้น และค่อยๆ ละลายชั้นสีที่ปิดทับอยู่ทีละส่วน ไม่ละลายออกทีเดียวทั้งหมด โดยในขณะนี้กำลังทดสอบน้ำยาเคมีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อใช้ในการดำเนินการ
ส่วนของระยะเวลาที่จะใช้ในการดำเนินการละลายชั้นสีทั้งหมดออกจนแล้วเสร็จ ในเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หรือ 30 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการดำเนินงานในแต่ละส่วน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลายรดน้ำดั้งเดิม และคืนสภาพลายรดน้ำบนบานประตูวิหารวัดหมื่นล้านไว้ให้ได้มากที่สุดต่อไป
อนึ่ง วัดหมื่นล้าน เป็นโบราณสถานที่ไม่ได้ประกาศขึ้นทะเบียน ตามประวัติระบุว่า สร้างโดยหมื่นโลกสามล้าน หรือ หมื่นด้งนคร ผู้เป็นขุนศึกคู่พระทัยของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาราชวงศ์มังราย ในปีมะเส็ง
จุลศักราช 822 หรือตรงกับ พ.ศ. 2002 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 มีบันทึกระบุว่า หลวงโยนะการพิจิตร ซึ่งเป็นคหบดีได้สร้างขึ้นมาทดแทนของเดิมที่เสียหาย ช่วงปี จ.ศ. 1279 ตรงกับ พ.ศ. 2460