รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับผลงานการออกแบบ “ผ้าไทยใส่สบาย” กว่า 60 ชุด จากดีไซเนอร์รุ่นใหม่ 15 ท่าน แต่ละชุดมีเสน่ห์ เก๋ ทันสมัย สามารถนำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้จริง จะใส่ทำงาน ใส่ไปเที่ยว ใส่อยู่กับบ้าน หรือจะใส่ไปงานสังสรรค์ก็ได้
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) จัดการประกวดการออกแบบเครื่องแต่งกาย “ผ้าไทยใส่สบาย” ปี 2563 เพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ใช้เป็นเวทีในการแสดงศักยภาพ แสดงพลังการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยการนำผ้าไทยมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งผ้าไทยมีความหลากหลายทั้งชนิดของเส้นใย กรรมวิธีการผลิต สีสัน และลวดลาย สามารถนำมาออกแบบตัดเย็บเครื่องแต่งกายให้เข้ากับยุคสมัย เชื่อว่า การออกแบบของดีไซเนอร์เหล่านี้จะจุดประกายให้ประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ หันมาสวมใส่ผ้าไทยซึ่งดีไซน์เก๋ๆ โมเดิร์น ใส่แล้วรู้สึกภาคภูมิใจ
สำหรับผลการตัดสินการประกวด “ผ้าไทยใส่สบาย” รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ น.ส.อนุชฎา ชูเกลี้ยง รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นายณาร์รา สินถ่วง รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นายรักสวัสดิ์ สวัสดิ์รักษ์ ส่วนรางวัลชมเชยประเภทเทคนิคการสร้างสรรค์ผ้า ได้แก่ นายนรบดี ศรีหะจันทร์ และ นายประสบชัย วิจารณ์พล
นายอิทธิพล กล่าวว่า ทันทีที่เห็นผลงานที่ดีไซเนอร์แต่ละท่านออกแบบ ตัดเย็บด้วยความประณีต รู้สึกว่าทันสมัยมาก ทาง วธ. จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่นเพิ่มขึ้นหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน จัดทำแผนงาน/โครงการรณรงค์การใช้และสวมใส่ผ้าไทยและผ้าพื้นเมืองเพื่อให้เกิดความยั่งยืน สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการรณรงค์ระหว่างภาครัฐ/เอกชน และประชาชน รวมทั้งจัดให้มีการอนุรักษ์ต่อยอดภูมิปัญญาเกี่ยวกับการแปรรูปผ้าไทยผลิตเป็นสินค้าต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และสร้างเศรษฐกิจฐานรากในระดับจังหวัดและชุมชนต่างๆ ด้วย
ไอเดียดีไซน์ผ้าไทยให้โมเดิร์น
น.ส.อนุชฎา ชูเกลี้ยง ในฐานะผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ เล่าว่า เธอมีพื้นเพอยู่ทางภาคใต้ และทุกวันจะเห็นเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นผืนป่าต้นน้ำที่ยังคงไว้ด้วยธรรมชาติ จึงมีไอเดียนำผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติ มาผสมผสานกับผ้าไหม ผ้าไทยอื่นๆ โดยจะเน้นสีเขียวเหลือง สื่อถึงความเขียวชะอุ่ม ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า โดยจะปักไหมย้อมสีธรรมชาติเป็นรูปภูเขาแต่ไม่ใช่ภูเขา คือ จะเน้นศิลปะ ไม่ได้เน้นสวยงาม อย่างไรก็ตาม เมื่อทำเสร็จแล้วจะออกแนวเก๋ และไม่เหมือนใคร ที่สำคัญชุดนี้จะมีชุดเดียวของโลก
“เธอดีไซน์ 4 ชุด รวมถึงรองเท้า กระเป๋า ถ้าหากใส่เป็นชุด หลายคนอาจจะไม่กล้าใส่ เพราะมองว่ามันเยอะไป อันที่จริงแล้วทุกชุดที่ออกแบบสามารถแยกชิ้นได้หมด นำไปใส่กับกระโปรง กางเกงผ้าที่เราใส่ในชีวิตประจำวันก็ได้ คือ ทุกอย่างนำมาปรับใส่ให้เหมาะสมได้” น.ส.อนุชฎา กล่าว
ขณะที่ นายณาร์รา สินถ่วงเล่าว่า ไอเดียในการดีไซน์เสื้อผ้าครั้งนี้ เกิดจากภาพยนตร์เรื่อง The darjeeling Iinited (2007) โดย Wes Anderson เล่าเรื่องการเดินทางของสามพี่น้องและเรื่องราวที่ได้ไปพบเจอ ตนนำมาผสมผสานกับแนวคิดจากภาพวาด Land scape โดย David Hockney ศิลปิน pop Art ชาวอังกฤษ แล้วนำไอเดียเหล่านี้มาถ่ายทอดผ่านการทำผ้าบาติกลงบนผ้าฝ้าย ผ้าใยกันชง ผ้าไหมเปลือกนอก ผสมกับการปัก ที่ได้ต้นแบบมาจากการปักผ้านากา ของชาวเขาเผ่าม้ง เกิดเป็นเสื้อผ้าซึ่งมีกลิ่นอาย resort ที่นำเทคนิคและสไตล์ที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากัน มาผสมผสานกันอย่างลงตัว
“พอได้โจทย์ “ผ้าไทยใส่สบาย” ในขั้นตอนการออกแบบใช้เวลาไม่นาน แต่การผลิตใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากเป็นงานมือ งานปัก ต้องประณีต ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนชอบคู่สี สีตัดกัน จึงเลือกผ้าไทยหลากหลายชนิด เพื่อให้ใส่แล้วจะรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา ดังนั้น ทุกชุดที่ออกแบบนั้นสีจะฉูดฉาดแต่ก็กลมกลืนกันอย่างลงตัว ขอยืนยันว่าทุกชุดนำมาสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ” นายณาร์รา กล่าว
ด้าน นายรักสวัสดิ์ สวัสดิ์รักษ์ เล่าให้ฟังว่า การดีไซน์เสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้ มีไอเดียมาจากใบตอง ที่คนไทยนิยมนำมาใช้ในพิธีการทั้งพิธีมงคลและอวมงคล ตนจะนำจุดเด่นของใบตองทั้งลวดลายและเส้นใบ พื้นผิวในสถานะของใบตอง ไม่ว่าจะใบตองสด ใบตองแห้ง มาเป็นเทคนิคหลัก ออกแบบลวดลาย ผูกโบว์ จับจีบรูดผ้าให้เกิดความสวยงาม
“คอลเลกชันที่ออกแบบนั้น สีจะออกแนวเอิร์นโทน ดีไซน์ไว้หลากหลายสไตล์ เพื่อให้ใส่ได้หลายโอกาส ชุดทำงานออฟฟิศ โค้ชใส่เดินทางไปต่างประเทศ ชุดลำลองใส่ไปเที่ยว ทุกชุดสามารถแยกชิ้นได้ เสื้อ กระโปง กางเกง ก็เลือกใส่ให้เหมาะกับโอกาสหรือสถานที่จะไปได้” นายรักสวัสดิ์ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณ สศร.ที่จัดเวทีประกวดเพื่อให้ดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ ได้แสดงศักยภาพ ชูไอเดียนำผ้าไทย มาออกแบบตัดเย็บหลากหลายสไตล์ ล้วนแล้วแต่ทันสมัย นำมาใส่ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่มีคำว่า “เชย” อีกต่อไป
ทั้งนี้ สศร. นำผลงานการออกแบบผ้าไทย กว่า 60 ชุด มาจัด นิทรรศการ Contemporary Fashion Competition 2020 ที่ หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน ผู้ที่สนใจมาชมกันได้จนถึง 3 ส.ค. นี้