สปสช.แถลงอดีตผู้บริหารไม่มีเอี่ยว 18 คลินิกทุจริตบัตรทอง ยังเหลือทวงเงิน 13.6 ล้านบาท ส่วนอีก 63 คลินิกที่ขยายผล พบยื่นอุทธรณ์ 11 แห่ง เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่ม 30 ก.ค.- 11 ส.ค. นี้
วันนี้ (15 ก.ค.) นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินคดี 18 คลินิกชุมชนอบอุ่นทุจริตเบิกค่าบริการคัดกรองโรค “บัตรทอง” และขยายผลตรวจสอบพบอีก 63 แห่งข้อมูลไม่ถูกต้อง ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรก การเอาผิดคลินิก 18 แห่ง สปสช.ดำเนินการ 9 ส่วน ดังนี้ 1. ระงับจ่ายค่าบริการทางการแพทย์หน่วยบริการทั้ง 18 แห่ง 2. เรียกคืนเงินตามจำนวนที่ตรวจสอบพบว่าเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง เป็นยอดเรียกคืนทั้งสิ้น 74,397,720 บาท เรียกคืนแล้ว 60,773,809 บาท เหลือรอเรียกคืนในวันที่ 30 มิ.ย. จำนวน 13,623,911 บาท 3. แจ้งความตามคดีอาญา ส่งมอบเอกสารหลักฐานเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 4. วันที่ 7 ก.ค. สปสช. ส่งเรื่องให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แพทยสภา และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีผู้ประกอบวิชาชีพอื่นด้วยหรือไม่ เพื่อดำเนินการเรื่องจริยธรรมวิชาชีพ
5. บอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี 18 คลินิกทุจริต 6. ยกเลิกสัญญาหน่วยบริการประจำทั้ง 18 แห่ง และประกาศยกเลิกการเป็นหน่วยบริการ วันที่ 9 ก.ค. โดย สปสช.จัดระบบให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองกว่า 2 แสนรายใน 18 คลินิกเอกชนใน กทม. ได้รับการดูแลแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะได้รับการย้ายหน่วยบริการอัตโนมัติ ผู้ป่วยส่งต่อในระหว่างนี้ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว 7. ขอความร่วมมือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งทีมสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย 8. เสนอเรื่องเข้าคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข และ 9. เมื่อวันที่ 14 ก.ค.คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี 18 คลินิกทุจริตประชุมนัดแรก
นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ส่วนที่ 2 การขยายผลการตรวจสอบอีก 86 แห่ง เป็น รพ.เอกชน 20 แห่ง และคลินิกเอกชน 66 แห่ง พบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 แห่ง เป็นจำนวนเงินที่ต้องเรียกคืน 2,473,600 บาท แต่เมื่อแจ้งผลการตรวจสอบให้หน่วยบริการรับทราบ มีหน่วยบริการ 11 แห่งขออุทธรณ์ผลการตรวจสอบ อีก 52 แห่งไม่อุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวถามกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อดีตผู้บริหาร สปสช. และไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคลินิก จนเกิดคำถามว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า อดีตผู้บริหาร สปสช.เกี่ยวข้องหรือไม่ ขัดกับระเบียบ สปสช.หรือไม่ จริงๆ ไม่เกี่ยวข้อง แต่หากจะถามว่าผิดกฎหมายอื่นหรือไม่ คงไม่ใช่บทบาท สปสช.เป็นคนชี้ แต่ต้องเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นคนดำเนินการ แต่จากการตรวจสอบ 45 คลินิกแรกจนพบ 18 แห่ง รวมทั้ง 86 คลินิกจนพบข้อมูลไม่ถูกต้อง 63 คลินิก ก็ไม่มีอดีตผู้บริหาร สปสช.เกี่ยวข้อง ซึ่งหากเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการในมาตรฐานเดียวกัน ส่วนเรื่องคลินิก 63 แห่งนั้น เราตรวจสอบพบว่า ไม่มีเอกสารหลักฐานของประชาชนที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง แต่ยังไม่พบทุจริตในส่วนนี้ ซึ่งจะลงตรวจสอบอย่างละเอียด 63 คลินิกอีกในระหว่างวันที่ 30 ก.ค.- 11 ส.ค. แต่ในวันที่ 16 ก.ค. คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร หรือ อปสข.กทม. จะมีประชุมก็จะมีการรายงานผลเรื่องนี้
