นับเป็นเรื่องน่าตกใจไม่น้อยที่แม้ว่าปัจจุบันคนไทยรุ่นใหม่ๆ จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น แต่เมื่อปลายปีที่แล้ว Education First โรงเรียนสอนภาษาระดับโลกสัญชาติอเมริกัน ได้เปิดเผยผลสำรวจว่า ทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคนไทยรั้งอยู่ในอันดับที่ 74 ของโลก จากจำนวนทั้งหมด 100 ประเทศ คิดเป็นคะแนนรวม 47.62 โดยร่วงลงมาจาก 2 ปีก่อนหน้านั้น คือ ในปี 2017 ไทยติดอันดับที่ 53 จาก 80 ประเทศ คิดเป็นคะแนนรวม 49.7 และในปี 2018 ไทยติดอันดับที่ 64 จาก 88 ประเทศ คิดเป็นคะแนนรวม 48.54 เรียกว่าอันดับตกลงมาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปีติดต่อกัน อีกทั้งผลคะแนนรวมยังจัดอยู่ในระดับต่ำมาก (Very Low Proficiency)ความสามารถทางภาษาของคนไทยจึงยังสวนทางกับคุณสมบัติด้านภาษาที่บริษัทส่วนใหญ่ต้องการจากผู้สมัครงานมาโดยตลอด
อันที่จริงทักษะทางภาษาอังกฤษนับเป็น a must หรือคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่ผู้สมัครงานทุกคนต้องมีและสำหรับคนที่สนใจด้านภาษา อยากทำงานสายบริการ หรือหวังจะก้าวหน้าในอาชีพ ภาษาอังกฤษก็ยิ่งทวีความสำคัญ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมในระดับอุดมศึกษา ภาษาอังกฤษจะยังคงเป็นสาขาวิชาที่ฮอตฮิตติดอันดับของนักเรียนสายศิลป์ดังเช่น สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เป็นหนึ่งในสาขาที่ได้รับการยอมรับมานานเกือบ 40 ปี
หนึ่งในผลผลิตที่ประสบความสำเร็จของสาขาวิชานี้ก็คือ คุณปรารถนา สงวนทรัพย์ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบิน Qatar Airways ศิษย์เก่าผู้ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาจากการเรียนสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอาชนะผู้สมัครคนอื่นๆ จนได้ทำงานภายใต้ปีกQatar Airways ซึ่งทราบกันดีว่า การจะได้ทำงานกับสายการบินตะวันออกกลางที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“แต่เดิมความรู้ภาษาอังกฤษของดิฉันอยู่ในขั้นติดลบ” ปรารถนากล่าว“แต่ด้วยเนื้อหาวิชาและความทุ่มเทของอาจารย์ ทำให้เราเข้าใจบทเรียนและนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะตอนสอบเป็นลูกเรือของ Qatar Airways ที่ดิฉันต้องขอบคุณคณะและสาขานี้ เพราะทุกอย่างที่เรียนมาช่วยทำให้ดิฉันผ่านการคัดเลือก ตั้งแต่การทำเรซูเม่ การสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ และที่สำคัญคือการฝึกพูดในที่สาธารณะ และตอนนี้ในฐานะที่เป็นลูกเรือเราจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับทั้งทางบริษัทและผู้โดยสาร ดังนั้นต้องฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างดี เรียกว่าประสบการณ์การเรียน 4 ปีในมหาวิทยาลัย ทำให้ดิฉันมีอาวุธใช้ในการทำงาน ทั้งเทคนิคการเขียนและการพูดที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น”
ด้าน ดร.เพ็ญประภา มังกรวงษ์ หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยถึงรูปแบบการเรียนรู้ว่า ทางสาขาผสมผสานกระบวนการบ่มเพาะ 3 ด้านให้แก่นักศึกษา ได้แก่ ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skill) และทัศนคติ (Attitude) โดยในด้าน Knowledge ประกอบด้วย 1) ความรู้ด้านภาษาและการสื่อสารในบริบทต่างๆ 2) ความรู้ด้านวัฒนธรรมสากล 3) ความรู้ด้านเทคโนโลยี 4) ความรู้ด้านการสืบค้นวิเคราะห์ข้อมูล และ 5) ความสนใจเฉพาะด้าน เช่น การโรงแรมการท่องเที่ยวธุรกิจการบิน หรือแม้แต่ภาษาต่างประเทศอื่นๆ สำหรับด้านSkill ประกอบด้วย 1) ทักษะด้านการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน 2) ทักษะการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม 3) ทักษะสังคม 4) ทักษะด้านการนำเสนอ 5) ทักษะด้านการใช้เทคโนโลยี และ 6) ทักษะในการคิดวิเคราะห์ ส่วนด้าน Attitude นักศึกษาจำเป็นต้องมี 1) ความพร้อมปรับตัวรับกับความท้าทายใหม่ๆ 2) ความพร้อมในการทำงานเป็นทีม 3) การยอมรับความแตกต่างทางความคิดเห็น สังคม และวัฒนธรรม 4) ความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก และ 5) ทัศนคติเชิงบวกต่อปัญหาที่พบ การผสมผสานกระบวนการบ่มเพาะดังกล่าวทำให้นักศึกษามีทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านภาษา ทักษะการทำงาน หรือทักษะการใช้ชีวิต ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานไม่ใช่แค่ระดับประเทศ แต่ในระดับสากล
ด้วยเหตุนี้บัณฑิตของ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพหลายต่อหลายคน จึงทำงานอยู่ในองค์กรระดับประเทศและระดับสากลเหมือนปรารถนา และทางสาขาก็มุ่งหวังว่า จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทักษะด้านภาษาของเยาวชนไม่ให้รั้งอยู่ในอันดับท้ายๆ ของโลกอีกต่อไป
