สสส. จับมือ ภาคีเยาวชน เครือข่ายสามล้อไทย ปล่อยขบวนรณรงค์ทั่วกรุง หวังกระตุ้นชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ลดเสี่ยงโควิด-19 หลังพบผู้โดยสารไม่สวมหน้ากากผ้าป้องกันตัวเอง
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่เดอะฮอล์ บางกอก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายปกป้องเด็กและเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต จัดกิจกรรม “ชีวิตวิถีใหม่ สามล้อขับขี่ปลอดภัย ลดเสี่ยงโควิด-19” เพื่อรณรงค์ให้สังคมตระหนักถึงการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ “New normal” กระตุ้นให้ประชาชนไม่ประมาท ป้องกันการกลับมาของเชื้อโควิดรอบสอง โดยชูรูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัย รักษาวินัยจราจรและการปฏิบัติตัวลดเสี่ยงโควิด-19 ภายในงานมีการจัดขบวนแฟนตาซี พุ่มผ้าป่าจำลอง ประดับด้วยพุ่มหน้ากากผ้า เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การแห่แตรวงแบบรักษาระยะห่างระยะห่าง การเดินรณรงค์พบปะร้านค้าและประชาชน ภายในซอยวิภาวดี 64
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ภาคีเครือข่าย สสส. ได้ออกแบบการรณรงค์ครั้งนี้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการจำลองขบวนผ้าป่าอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม แม้สถานการณ์กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังรณรงค์ครอบคลุมไปถึงการไม่สูบบุหรี่ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มความรุนแรงของการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้นจากคนปกติถึง 14 เท่า ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น 3 เท่า ที่สำคัญ ยังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายสามล้อไทย ร่วมรณรงค์ตอกย้ำการขับขี่ปลอดภัย รักษาวินัยจราจร เพราะสถิติจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่า ตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 6,354 คน ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมีผู้เสียชีวิต 6,759 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ต่างกันมาก แม้จะมีมาตรการขอความร่วมมืองดการเดินทางในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าการรณรงค์เรื่องนี้ยังต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของภาคีเครือข่ายเยาวชน ที่ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มคนวัยเดียวกัน ให้ลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการชักชวนครอบครัวคนใกล้ตัว รักษาพฤติกรรมการสวมใส่หน้ากากผ้า รักษาระยะห่าง และหมั่นล้างมือบ่อยๆ รวมไปถึงงดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น งดกิจกรรมที่ทำร่วมกันเป็นกลุ่ม พร้อมหันมาใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดพฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้สารเสพติด โดยในอนาคตหากมีวัคซีนรักษาโรคนี้แล้ว แต่เยาวชนและคนไทยก็ยังควรรักษาพฤติกรรมการมีสุขอนามัยเหล่านี้ไว้อยู่
ด้าน นายชินพัฒน์ ต่อรัตน์ ประธานเครือข่ายสามล้อไทย กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 สามล้อทุกคนต้องหยุดงาน เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมาตรการในเฟส 3 สามล้อได้เริ่มทยอยกันออกมาประกอบอาชีพตามปกติ โดยครั้งนี้เครือข่ายสามล้อไทยมีสมาชิกสมัครเข้าร่วมการรณรงค์จำนวน 100 คัน ซึ่งจะมีข้อกำหนดในการงดรับผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากผ้า ส่วนคนขับรถต้องสวมหน้ากากผ้าและลดการพูดคุยกับผู้โดยสารขณะขับรถ มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการ มีการทำความสะอาดรถด้วยแอลกอฮอล์ ให้ผู้โดยสารขึ้นรถได้ครั้งละ 1-2 คน และรับค่าโดยสารมาทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์หรือบางรายอาจใช้การโอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งอาจเป็นวิธีที่ยุ่งยาก แต่ก็สามารถป้องกันการการติดเชื้อได้ เพราะกว่าประเทศจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกฝ่ายต้องทุมเททำงานอย่างหนัก และคงไม่มีใครอยากกลับไปจุดเดิมอีก
“สิ่งที่เราย้ำกับเครือข่ายสามล้อไทยมาโดยตลอด คือ วินัยจราจร ไม่ขับเร็ว ไม่ซิ่ง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ตัวผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถใช้ถนน แม้ช่วงนี้ต้องให้ความสำคัญกับโควิด-19 แต่เรื่องขับขี่ปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะในแต่ละวันมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ สสส. ได้ให้โอกาสพวกเราในการเป็นสื่อกลางสื่อสาร รณรงค์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ เพราะทุกคนกำลังกังวลว่าหากคนไทยการ์ดตก ใช้ชีวิตเคยชินตามเดิม โอกาสระบาดอีกกลับมามีสูงแน่ๆ ดังนั้น แม้เราจะเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ แต่ก็อยากแสดงออกให้เห็นว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันจริงๆ” นายชินพัฒน์ กล่าว