ศบค.เตือนไทยปลอดเชื้อ 3 สัปดาห์ แต่ยังประมาทไม่ได้ ยกเคส “จีน-ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย” ไม่มีติดเชื้อในประเทศหลายสัปดาห์ ก็ยังกลับมาเจอผู้ป่วย ย้ำ 5 มาตรการ สวมหน้ากาก ร่วมเช็กอินเช็กเอาต์ไทยชนะ
วันนี้ (15 มิ.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า แม้ขณะนี้ประเทศไทยจะไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศมา 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ซึ่งมีกรณีจากต่างประเทศให้เรียนรู้ คือ 1. จีน มีการยืนยันผู้ป่วยรายใหม่ 57 คน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 2 เดือน โดย 19 คนกลับมาจากต่างประเทศ และ 38 คน ติดเชื้อในประเทศเอง โดย 36 คน พบในกรุงปักกิ่ง อีก 2 คนพบที่มณฑลเหลียวหนิง สำหรับผู้ป่วย 36 คนเชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผักผลไม้เนื้อสัตว์อาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ในเขตเฟิงไถ โดยในนั้นมีซูเปอร์มาร์เกต ที่นำปลาแซลมอนมาขาย และตรวจพบเชื้อบนเขียงนั้น ทำให้มีข้อกังวลว่ามาจากเนื้อปลาหรือไม่ เพราะคนชอบรับประทานแบบสดๆ ทำให้ตลาดนี้ถูกสั่งปิดโดยไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา และคนที่เกี่ยวข้องกับตลาด 1 หมื่นคน ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ปักกิ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกรอบในเขตเฟิงไถ กักบริเวณชุมชนใกล้เคียง 11 แห่ง ปิดโรงเรียนทั้งหมดในเขตเฟิงไถ และประกาศห้ามการเดินทางข้ามเมือง งดเว้นกิจกรรมแข่งขันกีฬาทุกชนิด การแพร่ระบาดรอบ 2 ที่กังวลว่าจะเกิดตอนนี้ก็ยังไม่เกิด เพราะจัดการตรงนี้ก่อน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 2. ญี่ปุ่น มีรายงานข่าวพบรอบใหม่ในกรุงโตเกียว จำนวน 47 คน เป็นครั้งแรกที่มีรายงานมากกว่า 40 คนตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. คนติดเชื้อส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง การตรวจเชื้อแบบกลุ่มพบว่า 18 คน ติดจากแหล่งสถานบันเทิงในย่านคาบูกิโจ ในเขตชินจูกุ อีกจำนวนหนึ่งทำงานในคลับ และอีก 7 คนมีประวัติร่วมกันในการไป รพ.แห่งหนึ่ง และอีก 4 คน มีประวัติร่วมกัน ชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ผู้ว่าการกรุงโตเกียว เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาจากการตรวจเชิงรุก จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับการติดเชื้อช่วงการระบาดรอบแรกได้ กรุงโตเกียวจะไม่สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน แต่ยังคงตรวจหาเชื้อและเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป ขอความร่วมมือคนทำงานสถานบันเทิงเข้ารับการตรวจเชื้อสม่ำเสมอ และเตรียมการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงการตรวจหาเชื้อและระบบสาธารณสุขของเมืองต่อไป
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า และ 3. ออสเตรเลีย รัฐนิวเซาท์เวลส์ พบเคสผู้ป่วยหลังเป็น 0 หลายสัปดาห์ โดยเจอรายแรกวันที่ 13 มิ.ย. หลังลดเป็น 0 ตั้งแต่ พ.ค. เป็นสัญญาณว่าโรคระบาดยังไม่สิ้นสุดง่ายๆ ผู้ติดเชื้อเป็นชายวัย 20 ปี ที่หน่วยงานสาธารณสุขยืนยันว่าไม่เคยไปร่วมชุมนุมประท้วงที่นครซิดนีย์ ไวรัสน่าจะยังแฝงอยู่ในชุมชนโดยผู้มีอาการเล็กน้อย ไม่มีอาการเลย นำเชื้อไปแพร่
“สิ่งที่เกิดขึ้น 3 ประเทศเป็นตัวอย่างให้เราระมัดระวัง หลายคนบอกว่า เราเป็น 0 น่าจะสบายใจได้แล้ว จีนก็เป็น 0 สบายใจมาพักใหญ่ก็มาติดเชื้อ ญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็เช่นกัน เราเรียนรู้ประเทศที่เดินหน้าก่อนหน้านี้เรา เราต้องระวังตัวอย่างไร สิ่งสำคัญที่เราแตกต่างจากที่อื่น ที่เขาบอกว่าเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ในการควบคุมโควิด-19 ได้ดี สิ่งที่เราแตกต่างจากคนอื่น คือ ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตอดเวลา ตรงนี้จะปกป้องเราได้ ขอให้ทำอย่างนี้ต่อเนื่องใน 5 มาตรการหลักบวกการเช็กอินเช็กเอาต์ด้วยไทยชนะ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว