รอยเตอร์ - รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ภายในท้องถิ่นรายแรกวันนี้ (13 มิ.ย.) หลังผู้ป่วยใหม่ลดลงเป็นศูนย์ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าโรคระบาดใหญ่ (pandemic) ยังคงไม่สิ้นสุดง่ายๆ ในขณะที่ภาครัฐเริ่มผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้ว
นิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐใหญ่สุดของออสเตรเลีย มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ถึง 4 รายในชั่วข้ามคืน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมในแดนจิงโจ้พุ่งเฉียด 7,300 คน
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในท้องถิ่นเป็นชายวัย 20 ปีเศษ ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขยืนยันว่า เขาไม่เคยไปเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง “Black Lives Matter” ที่นครซิดนีย์
“ไวรัสน่าจะยังคงแฝงอยู่ในชุมชน โดยผู้ที่มีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลยอาจจะแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้” กระทรวงสาธารณสุขแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลง
สำหรับผู้ป่วยใหม่อีก 2 ราย เป็นคนเดินทางซึ่งอยู่ระหว่างกักตัวที่โรงแรม ส่วนอีก 1 ราย เกี่ยวโยงกับการแพร่ระบาดที่โรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง
ออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 โดยจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพียง 102 ราย และเตรียมเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจในเดือน ก.ค. ขณะที่หลายภูมิภาคประกาศว่าเชื้อไวรัสได้ “หมดสิ้น” ไปจากชุมชนแล้ว