“คนเรามีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากันเพราะไม่ได้มีเหมือนคนอื่น เราจึงต้องพยายามให้มากกว่าเดิม” วิภาวรรณ วิชัย กล่าวประโยคนี้ด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงคนที่ดำเนินชีวิตด้วยการศรัทธากับความฝันและเชื่อมั่นในตัวเอง
อดีตเธอคือเด็กสาวต่างจังหวัดที่ตามพ่อแม่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ มุมานะทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน เก็บเล็กผสมน้อยจากการทำงานพิเศษและขายครีมออนไลน์ นำเงินเก็บที่ได้ไปต่อยอดทำธุรกิจร้านอาหาร สานต่อความฝันวัยเด็กที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองและสามารถดูแลครอบครัวได้
ชีวิตพลิกผันจากไม่มีสู่ความมั่งมี วันนี้ธุรกิจที่เธอสร้างด้วยสมองและสองมือสามารถทำสร้างรายได้หลักล้าน กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่อายุยังน้อย ขณะเดียวกันเธอยังคงให้ความสำคัญกับการศึกษา หลังเรียนจบปริญญาตรี เธอมุ่งมั่นเรียนต่อในระดับปริญญาโททางด้านการบริหารธุรกิจ เพื่อนำความรู้มาต่อยอดและบริหารจัดการธุรกิจให้เดินไปอย่างมั่นคง
"หนักเอา... เบาสู้" หลักประกันความสำเร็จในชีวิต
วิภาวรรณ วิชัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาการจัดธุรกิจด้านการบิน วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทหลักสูตรบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต เธอเล่าว่า ในช่วงเรียนปริญญาตรีมีความสนใจเกี่ยวกับงานด้านบริการจึงตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านการจัดการธุรกิจด้านการบิน ระหว่างเรียนได้ทำงานพิเศษไปด้วยหลายอย่าง เรียกว่าทำงานทุกอย่างเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนจนจบและช่วยเหลือแบ่งเบาภาระครอบครัว ทั้งงานพาร์ทไทม์ เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน เก็บจาน แคชเชียร์ เธอค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย และเริ่มลงทุนขายของออนไลน์ ประเภทครีมและเครื่องสำอาง ขายดิบขายดีจนเป็นสินค้าติดตลาดบนโลกออนไลน์
“การที่เราทำอะไรโดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวถือเป็นการเรี่มต้นที่ดี อย่างธุรกิจขายครีมออนไลน์ก็เริ่มต้นจากการที่เราเป็นผู้ใช้ก่อน แล้วมาต่อยอดเป็นคนขาย ใช้ความรู้หลักการตลาดเบื้องต้นมาบริหารจัดการเรื่องการขาย เมื่อโตขึ้น ธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ก็มาคิดว่าอยากจะมีธุรกิจอย่างอื่นเพิ่มเติมที่มั่นคง ประกอบกับช่วงนั้นเรียนจบปริญญาตรีแล้วและพอจะมีความรู้ทางด้านงานบริการจากการเรียนมาในระดับหนึ่ง จึงนำเงินเก็บก้อนหนึ่งที่มีเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่เป็นร้านขายซูชิ ภายใต้แบรนด์ ไข่หวานบ้านซูชิ ซึ่งธุรกิจนี้ก็เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวที่เป็นคนชอบทานซูชิ และมองว่าเป็นอาหารที่สามารถทานได้ง่ายในทุกช่วงเวลา ตอบโจทย์คนยุคปัจจุบันที่มีไลฟ์สไตล์วิถีชีวิตง่ายๆ และพร้อมกันนี้ได้เรียนต่อทางด้านบริหารธุรกิจ ม.รังสิตควบคู่ไปด้วย เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้และนำมาปรับใช้ในการบริหารธุรกิจของเรา”
ความรู้+การเรียนรู้ สู่การนำไปใช้ในธุรกิจ
การเรียนรู้ในห้องเรียนไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎีให้เราจดจำ หากแต่การนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์คือสิ่งที่ได้รับกลับมาจากการเรียนต่อในระดับปริญญาโท นอกจากนี้ ยังได้รู้จักกับเพื่อนๆ ที่ทำงานในหลากหลายสาขา รวมทั้งที่เป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจต่างๆ ตรงนี้ทำให้เราได้คอนเนคชั่นเพิ่ม ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำธุรกิจไปพร้อมกัน ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กว้างไกลขึ้น ขณะเดียวกันอาจารย์ผู้สอนในหลักสูตรก็พร้อมจะเติมเต็มความรู้และคอยให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง ต้องบอกว่าในการทำธุรกิจไม่ว่าจะขายของออนไลน์ หรือธุรกิจร้านอาหารที่ทำอยู่ ล้วนแต่นำความรู้จากการเรียนมาปรับใช้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการภายในร้าน การทำแผนธุรกิจ การใช้กลยุทธ์ต่างๆ การบริการลูกค้า การเทรนพนักงาน ฯลฯ
สำหรับธุรกิจขายครีมออนไลน์ทุกวันนี้ก็ยังคงทำอยู่ ส่วนธุรกิจใหม่ ร้านไข่หวาน บ้านซูชิ เปิดให้บริการจำหน่ายอาหารแก่ลูกค้า 2 สาขา คือสาขา ม.รังสิต และสาขา ม.ธรรมศาสตร์ ผลตอบรับดีมาก โดยจุดเด่นของอาหารร้านไข่หวาน บ้านซูชิ คือ การให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของอาหาร ใช้วัตถุดิบที่ดี มีความสด ที่สำคัญราคาไม่แพง ส่วนหนึ่งเพราะร้านที่เปิดอยู่ใกล้สถานศึกษา อยากให้ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษาด้วย
ชีวิตวันนี้หากถามว่าประสบความสำเร็จถึงก้าวไหนแล้ว เธอบอกว่า ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น บนเส้นทางธุรกิจเราไม่ควรประมาท ต้องเรียนรู้ ปรับตัว และก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสังคม วันนี้เราเติบโต แน่นอนว่าความเสี่ยงในอนาคตที่ธุรกิจเราจะสะดุดก็อาจจะมีบ้าง เพียงแต่ประสบการณ์การเรียนรู้ในชีวิตที่ผ่านจะสอนให้เราเดินได้อย่างระมัดระวังมากขึ้น คนเราไม่ผิดที่จะคิดฝัน ขอแค่มีเป้าหมายและเดินไปให้ถูกทาง ไม่ว่าฝันนั้นจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ ขอแค่เราไม่ลดขนาดของความพยายาม
“เมื่อก่อนเคยถามตัวเองว่า เราเก่งด้านไหน เรามีพรสรรค์อะไรบ้าง แต่หากเราไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตจะเดินต่อและทำตามความฝันไม่ได้ เพราะความแตกต่างของคนที่มีพรสวรรค์กับคนที่ประสบความสำเร็จ คือ ความขยัน และตัวเองคงมาถึงวันนี้ไม่ได้หากไม่ขยันและพยายามให้มากพอ”
พรสวรรค์... ยังไงก็ไม่สู้พรแสวง