“ตั้ม วราวุธ” น้ำตาเอ่อ โควิดทำให้ได้เป็นบัณฑิต 6 ปีที่พยายามได้ปริญญาใบแรกฝากพ่อแม่แล้ว เผยขำๆ แม่ดีใจส่งควายเรียนสำเร็จ ภูมิใจคอมเมนต์ทะลักเหมือนได้แชมป์เดอะสตาร์ ฟุ้งหลังรับปริญญาจะบวช แล้วเบียดเลย อยากมีลูก ให้กำลังใจ “แก้ม” ถูกสังคมโซเชียลถล่ม
กว่า 6 ปีที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ถึงวันนี้นักร้องหนุ่มอารมณ์ดี “ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” ก็คว้าปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าจริงๆ ตนไม่ได้ซีเรียสเรื่องใบปริญญา แต่แค่อยากให้พ่อแม่และแฟนคลับภูมิใจเท่านั้นเอง
“เพิ่งได้เป็นบัณฑิตใหม่ครับ ก็เหมือนเรียนแพทย์เลย ประมาณ 6 ปีได้ เราเรียนเรื่อยๆ ครับ เรียนควบคู่กับการทำงานไปด้วย จริงๆ ผมไม่ได้ซีเรียสหรือรีบขนาดนั้น เอาเท่าที่ไหว แต่พอดีช่วงโควิด เรามีการเรียนออนไลน์ แล้วได้หยุดพอดี ก็รีบเก็บให้หมด คือเป็นนิสิตรุ่นโควิด โควิดทำให้ได้บัณฑิตครับ (ยิ้ม) เกรดเท่าไหร่ยังไม่แน่ใจ ต้องรอตัวธีสิสออกด้วย แต่ว่าจบก็ดีแล้ว เรื่องเกรดไม่สนใจแล้ว แค่จบก็ประสบความสำเร็จแล้ว”
“ตอนนี้ก็เหลือธีสิสอีกนิดหน่อยครับ แล้วก็เตรียมรับสิ้นปี จบ 100% ครับ นิเทศศาสตร์ ม.รังสิตครับ ตอนที่รู้ว่าจบแล้ว 6 ปีตอนแรกไม่รู้สึกอะไร แต่พอวันไปถ่ายรูปชุดครุย ก็รู้สึกขนลุกที่ได้ใส่ชุดนี้ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา รู้สึกว่ามาถึงสักที ก็เลยลงรูป ครั้งหนึ่งในชีวิต ก็ดีใจเหมือนกัน จริงๆ แล้วส่วนตัวผมเรื่องเรียนจบไม่จบไม่ซีเรียส แต่เราอยากให้พ่อแม่สบายใจ อยากให้แฟนคลับรู้สึกว่าศิลปินที่เราชื่นชอบเรียนจบ จะได้ไม่รู้สึกอายว่าศิลปินตัวเองเรียนไม่จบ แค่นั้นเอง ให้มีรูปกับแฟนคลับ พ่อแม่ และครอบครัว ครั้งหนึ่งในชีวิตแค่นั้นเอง”
บอกพ่อกับแม่ก็ดีใจ และมีแพลนจะเรียนปริญญาโทต่อเลย เพราะได้ทุนเรียนมา
“แม่น้ำตาจะไหล แม่บอกส่งควายเรียนจนสำเร็จ (หัวเราะ) แม่ก็ดีใจ ก็เอารูปที่เราส่งให้ไปขึ้นเป็นพื้นหลังโทรศัพท์เลย ภาคภูมิใจ ตัดไปที่พ่อ พ่อเขามีรูปตอนรับปริญญา เขาเลยบอกความหล่อยังสู้พ่อไม่ได้ ตอนลงรูปทุกคนเข้ามาคอมเมนต์แบบดีใจมาก เหมือนเราได้แชมป์เดอะสตาร์ตอนแรกๆ (หัวเราะ) คอมเมนต์เยอะมากๆ คนไลก์พุ่งมากๆ ต่อจากนี้ลงไอจีอยากใส่ชุดครุยตลอด คือยอดดีมากๆ ครับ ทุกคนคงเห็นผมทำงานมานานแล้ว แล้วยังไม่มีภาพในการเรียนจบเกิดขึ้น บางคนก็ตกใจว่าเพิ่งจบหรอ นึกว่าจบตั้งแต่เข้าวงการแล้ว เพราะหน้าได้ ก็ดีใจทุกคนก็เข้ามาแสดงความยินดี ขอบคุณทุกคนมากๆ”
“จะต่อปริญญาโทเลยไหมเหรอ ก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน เพราะได้ทุน ก็มองว่าถ้าได้ทุน เขาให้โอกาสเรา ก็คงจะเรียนต่อไป แต่ว่าเราก็ไม่ได้เร่งรีบตัวเอง จบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ก็คงเรียนสายเดิมเลยครับ วิทยุโทรทัศน์ จริงๆ ผมเป็นคนชอบวาไรตี้ เราก็อยากจะลองทำเบื้องหลังบ้าง อาจจะเป็นรายการ หรืออะไรที่ตัวเองชื่นชอบจริงๆ แล้วจริงๆ เราก็มีอะไรแตกในหัวมากมาย”
“จากประสบการณ์การทำงาน มันก็มีคิดคอนเทนต์ไว้บ้าง แต่ยังไม่มีโอกาสลงมือทำ คงสะสมวิชาจากการทำงานด้วย แล้วก็การเรียนหนังสือมาประกอบกัน อนาคตทางเบื้องหน้าเขาอาจจะเบื่อๆ เราแล้ว เราก็อาจจะไปเบื้องหลังได้ แล้วก็เอาความรู้ไปประกอบกัน คงไม่ใช่ผู้กำกับครับ ผมคงไม่ไปสายหนัง สายละคร ผมอยากทำรายการบันเทิง อยากทำวาไรตี้มากกว่า”
เผยตอนนี้ที่คิดไว้คืออยากบวชก่อน แล้วค่อยแต่งงานเป็นสเต็ปต่อไป
“ถามว่าเรียนจบแล้วจะแต่งงานเลยไหม บวชก่อนครับ ไปทีละสเต็ป รับปริญญาเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่รับปริญญาปุ๊บ ก็วางแผนเรื่องบวช เอาทีละเปลาะ บวชแล้วอาจจะแต่งงานเลยก็ได้ ไม่รู้ว่ายังไง เอาให้มันเป็นไปตามสเต็ปนี้แล้วกัน เอาตามที่ผู้ใหญ่สบายใจ ตัวผมลัดได้ จริงๆ อยากลัดมาก (หัวเราะ) แต่ก่อนเรียนจบไปเลย”
“ยังไม่ได้ปรึกษาพ่อแม่เลย อันนี้คิดเองเออเอง แต่ก็ทำตามสเต็ปเพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจ พ่อแม่เราก็สบายใจด้วย รวมถึงผู้ใหญ่ฝ่ายคนที่เขาคุยกับเราสบายใจด้วย อันนี้เป็นแพลนในใจยังไม่ได้บอกใคร บอกพวกพี่เป็นคนแรก (หัวเราะ) แอบคิดไว้ในใจคนเดียว กับแฟนก็ไม่ได้บอก คิดคนเดียวในใจ แต่เดี๋ยวน่าจะรู้แล้วมั้ง (หัวเราะ)”
“เรื่องบอกแม่ว่าเรียนจบแล้วอยากบวช และแต่งงาน ทุกคนรู้หมดว่าผมอยากมีลูก ผมชอบเด็ก อยากมีลูกเป็นเพื่อนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงิน อยากมีลูกเร็ว เพราะจะได้ไม่แก่เกินไป อยากจะไปเที่ยวกับลูก แต่เรื่องการงานมันก็ต้องควบคู่กันไป เราก็ต้องมีฐานะที่พร้อมด้วย ช่วงนี้เก็บโกยก่อนแล้วกัน เรื่องอนาคต จะสร้างครอบครัวกระเป๋าต้องแข็งแรงก่อน ถึงมีได้”
“จะแต่งงานตอนอายุแค่นี้ไม่แปลกสำหรับผมนะ แต่สำหรับคนอื่นอาจจะแปลกรู้สึกว่าเร็วไป เรียกว่าต้องรักษาจิตใจของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ แฟนคลับ แฟนเรา ผู้ใหญ่แฟนเราอีก ผู้ใหญ่ทางเรา รอให้ทุกอย่างมันพอดี น่าจะมีวันนั้นได้”
เผยได้ให้กำลังใจ “แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น” ที่โดนดรามาไปก่อนหน้านี้
“เราในฐานะคนที่รู้จัก และเป็นพี่น้องที่รู้จักกันเราเข้าใจทุกอย่างว่าจริงๆ พี่แก้มเป็นยังไง รวมถึงเรามีการพิมพ์ข้อความส่งไป มีการโทร.ให้กำลังใจกัน แกก็เปราะบาง อย่างข่าวที่แกให้สัมภาษณ์ไป ก็ไม่ได้คิดถึงตรงนั้น เราก็ให้กำลังใจ และพยายามให้แกคิดบวกว่าอย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นก็มีพี่น้อง คนที่รักอยู่ข้างๆ คอยดูแลจิตใจกัน ตอนนี้ก็ดีขึ้น พยายามบอกเขาว่าคนอื่นจะเข้าใจอย่างไรก็แล้วแต่ แต่คนรอบข้าง หรือคนที่รัก เข้าใจพี่แค่นั้นคือจบและตัวเรารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเจตนาเราคืออะไร เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องฟังให้มันบั่นทอนจิตใจ ทำงานต่อไป แล้วก็สร้างเสียงเพลง สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนต่อไป นางก็แฮปปี้”
“แก๊งเราค่อนข้างเซนซิทีฟกับเรื่องโซเชียล เพราะโดม (จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม) ก็เคยโดน จริงๆ มันเซนเซิทีฟ ตอนนี้โซเชียลเป็นอิทธิพลสำคัญ โชคดีที่ตัวเองก็ไม่ค่อยเล่นทวิตเตอร์ จะมีคนส่งมาให้ดู ถ้าผมเล่นทวิตเตอร์ก็อาจจะโดนด้วย เพราะว่าผมก็ชอบลั่นอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน(หัวเราะ) ถือว่าเป็นความโชคดี มันมีสองมุม สองด้าน ทางด้านศิลปินดารา เราอยู่ในที่สว่าง มันก็ต้องมีสติมากๆ ในการโพสต์อะไร มันจะได้ตรงนั้น ส่วนเรื่องจะจริงไม่จริง ไม่มีใครรู้หรอก ว่ากันไปด่ากันไป ก็พิมพ์กันไป ให้กำลังใจก็มี แต่ก็ดีๆ แล้วกัน”
“เราคุยกันตลอด และให้กำลังใจกันตลอดครับ บางทีเรื่องราวจริงๆ ไปพูดออกสื่อไม่ได้ เพราะว่ามันมีคนคิดต่าง ผมถือว่าเอาแค่คนรอบตัวเรา คนที่รักเรา ที่เขาเข้าใจเราก็พอ ไม่ใช่ว่าคนที่รักเราก็เกลียดเราไปด้วยแค่นั้นเอง”