xs
xsm
sm
md
lg

ก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิตเฟส 2 คืบ 30% เร็วกว่ากำหนด อภ.ปั้น Smart Industry ผลิตยาจำเป็นในปี 65

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



องค์การเภสัชฯ เผย ก่อสร้างโรงงานผลิตยาเฟส 2 คืบหน้า 30% เร็วกว่าแผนที่กำหนด คาด เปิดผลิตยาได้ปี 65 เน้นยาน้ำ ยาฉีด ยาครีม และ ยาเม็ด กลุ่มโรคเรื้อรัง ยาจำเป็น ยาเอดส์ ปั้นเป็นโรงงานสมาร์ท ใช้ระบบ AI ดิจิทัล หุ่นยนต์ IOT คุมอาคารอัตโนมัติในส่วนการผลิตยา

วันนี้ (10 มิ.ย.) ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ว่า โครงการดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้าง พร้อมติดตั้งระบบงานและเครื่องจักร 3 ปี หรือ 1,080 วัน เริ่มตั้งแต่ ก.ค. 2562 - มิ.ย. 2565 ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 30% เร็วกว่าแผนงาน 30 วัน โดยได้ตอกเสาเข็มเสร็จแล้วทุกอาคาร อยู่ระหว่างก่อสร้างฐานราก เช่น คาน พื้นชั้นหนึ่ง งานติดตั้งท่อระบบล่อฟ้า จากนั้นจะดำเนินการก่อสร้างชั้น 2 และชั้นอื่นต่อไป โดยดำเนินคู่ขนานกับการจัดทำข้อกำหนดเครื่องจักรและคัดเลือกเครื่องจักร และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ต้องใช้ในการผลิตยา อาทิ เครื่องจักรผลิตยาเม็ด ยาน้ำ ยาครีม และ ยาฉีด ตลอดจนรายละเอียดในการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน GMP-PIC/S

“คาดว่า จะสามารถเปิดทำการผลิตได้ภายในปี 2565 จะเป็นโรงงานผลิตที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน และช่วยให้คนไทยได้เข้าถึงยาได้มากขึ้น เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตจากโรงงานถนนพระรามที่ 6 เพื่อผลิตยาจำเป็นต่างๆ ยารายการใหม่ที่วิจัยและพัฒนาสำเร็จ โดยจะผลิตกลุ่มยาน้ำ ยาฉีด ยาครีม/ขี้ผึ้ง และยาเม็ด ในกลุ่มยารักษาโรคเรื้อรัง ยาที่มีปริมาณการใช้สูง ยาจำเป็น ได้แก่ ยารักษาโรคเอดส์ เบาหวาน ความดัน ลดไขมันในเส้นเลือด วัณโรค ยาช่วยชีวิต ยาฆ่าเชื้อ วิตามิน เป็นต้น และเป็นโรงงาน Smart Industry นำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ เทคโนโลยี AI ดิจิทัล หุ่นยนต์ Internet of Things และเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการและควบคุมอาคารอัตโนมัติ เข้ามาใช้ในส่วนงานผลิต ส่วนการจัดเก็บสินค้าใช้ระบบคลังอัตโนมัติ ASRS” ภญ.มุกดาวรรณ กล่าว














กำลังโหลดความคิดเห็น