“อนุทิน” พร้อมสอบข้อเท็จจริง 186 รพ.เรียกรับเงินทอนบริษัทยา 5% ย้ำพูดลอยๆ ไม่ได้ ต้องขอรายละเอียด ชี้ เรื่องนี้เป็นอำนาจ รมต.เพราะกระทบกระทรวง ไม่ใช่เรื่องบุคคล ส่วนบัตรสนเท่ห์ร้องตรวจสอบใบเสร็จรับเงิน รพ.ชุมแพ ปี 61 เป็นอำนาจ นพ.สสจ.ขอนแก่น และผู้ตรวจเขต 7 หาข้อเท็จจริง
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีนักวิชาการเปิดเผยข้อมูลมี รพ.สังกัด สธ. 186 แห่ง ทั้ง รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน มีการรับเงินจากบริษัทยา 5% ว่า ตนยังไม่ได้อ่านรายละเอียด แต่มีคนมาเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้ว ต้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ต้องมีรายละเอียดมากกว่านี้ และเป็นรายละเอียดที่เชื่อถือได้ และต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงอย่างแน่นอน ซึ่งมีกฎหมายเขียนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
“เรื่องแบบนี้จะพูดลอยๆ ไม่ได้ เหมือนกรณีพูดถึงการเรียกรับหัวคิว State Quarantine ต้องมีหลักฐานมาจะได้ตั้งกรรมการสอบ เรื่องนี้อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรี เพราะกระทบกับกระทรวงมาก ไม่ใช่แค่กระทบบุคคล ถ้าเป็นเรื่องบุคคล ตนจะไปก้าวก่ายไม่ได้ สำหรับเรื่องรายละเอียดจะต้องดูทุกอย่างประกอบกัน ไม่มีทำอะไรทางลับ จะทำทางแจ้งทุกอย่าง มีอะไรก็บอก อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ต้องกังวล ต่อให้รักหรือสนิทกันขนาดไหนก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ผมไม่ได้กังวลเรื่องพวกนี้ เพราะสามารถพิสูจน์ได้หมด เส้นทางเงินเข้าตรงไหน ไปตรงไหน นอกจากจะเก็บเงินสดกันไว้ เท่าที่ทราบทุกคนบอกว่ามีการโอนเข้ากองทุน โอนเข้าบัญชี ก็จะมีรายละเอียดอยู่ ออกใบเสร็จรับเงินหรือไม่ ชัดเจนหมดต้องตรวจสอบ” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีการส่งบัตรสนเท่ห์ทางออนไลน์ ขอให้ตรวจสอบ รพ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โดยปรากฏภาพใบเสร็จรับเงินเข้ากองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ ในปี 2561 นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยังไม่เห็น เรื่องเกี่ยวกับบุคคลก็ต้องไปถามผู้ที่รับผิดชอบ รพ.ชุมแพอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ก็ต้องสอบถามไปที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ขอนแก่น ถามผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 7 เรื่องนี้จะถึงรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ถ้าเรื่องมีการจ่ายเงินทอนยาสวัสดิการ 5% ถ้าโรงพยาบาล 186 แห่งจริง ถือว่าเยอะมากแบบนี้ รัฐมนตรีต้องจัดการหาข้อเท็จจริง
ถามต่อว่า ขณะนี้มีการแถลงข่าวตอบโต้กันไปมา ในฐานะ รมว.สธ.จะมีการหย่าศึกอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถามว่าใครได้ประโยชน์มากที่สุด หากทุกคนได้ประโยชน์ ถ้าต้องการให้ชาวบ้านได้ประโยชน์มากที่สุด หรือคู่กรณีได้ประโยชน์ ถ้าแต่ละฝ่ายแถลงแล้วชาวบ้านได้ประโยชน์ก็แถลง คนที่แถลงก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองแถลง ถึงเวลาเรียกข้อมูลก็ต้องเอามาให้ดู ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนอีกฝ่ายฟ้องร้องหมิ่นประมาทได้ ก็เป็นเรื่องดี ตนต้องได้ข้อมูลมากที่สุด เขาอยู่กันมาเป็น 10 ปี ตนเพิ่งมาอยู่ได้ 10 เดือน จะทำอะไรต้องมีข้อมูล ไม่หุนหันพลันแล่น ซึ่งการหุนหันพลันแล่นทำให้พังมาหลายคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพใบเสร็จรับเงินที่มีการเผยแพร่ ระบุว่า เป็นการบริจาคโดยบริษัท ที.โอ.เคมีคอลล์ (1979) จำกัด ซึ่งในเว็บไซต์บริษัท ระบุว่า เป็นบริษัทที่ผลิตยาในหมวดยาเม็ด ยาน้ำ ยาแคปซูล และยาครีม โดยบริจาควันที่ 13 มี.ค. 2561 จำนวนเงิน 5,635 บาท โดยระบุว่า เงินบริจาคเพื่อสวัสดิการเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ผอ.รพ.ชุมแพ ในสมัยนั้น คือ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี รักษาการ ผอ.รพ.ขอนแก่น ในปัจจุบัน ซึ่งเป็น ผอ.รพ.ชุมแพ ตั้งแต่ปี 2552-2561
