xs
xsm
sm
md
lg

เตือนร้านนวด-สปา 10,500 แห่ง ลงทะเบียนประเมินตนเองก่อนเปิดกิจการ 1 มิ.ย. ยัน “หมอนวด” กลับจาก ตปท.ผ่านกักตัว 14 วันเริ่มทำงานได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สบส.แจงแนวทางป้องกันโควิดร้าน “นวด-สปา” รองรับเปิดกิจการคลายล็อกเฟส 3 วันที่ 1 มิ.ย. เตือนร้านนวดสปา 10,500 แห่ง ลงทะเบียนประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ สบส.ก่อน ถึงได้ใบ e-Certificate มาแปะในร้าน ประเมินตนเองทุก 7 วัน ลงทะเบียนไทยชนะ แจงหมอนวดกลับจากต่างประเทศต้องกักตัว 14 วัน มั่นใจว่าปลอดเชื้อถึงทำงานได้

วันนี้ (31 พ.ค.) ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อความงาม และกิจการสปา ที่ได้รับการคลายล็อกเฟส 3 ให้เปิดในวันที่ 1 มิ.ย. 2563 ว่า ประเทศไทยมีร้านสปาและร้านนวดรวมกัน 10,500 แห่ง แบ่งเป็นกิจการนวดเพื่อสุขภาพ 9,400 แห่ง สปา 900 แห่ง และนวดเพื่อเสริมความงาม 200 แห่ง โดย สบส.มีการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ ดังนี้ 1. สถานที่และอุปกรณ์ เช่น เตรียมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้ลูกค้าสวมใส่ทุกครั้ง เตรียมเจลแอลกอฮอล์ 70% จัดดูแลอุปกรณ์วัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าร้านทั้งผู้รับและผู้ให้บริการ ให้ข้อมูลผู้รับบริการทุกครั้งว่าปฏิบัติตนเช่นไรในการรับบริการ มีการเว้นระยะห่างระหว่างการสอบถามพูดคุยกัน 1 เมตร และมีอุปกรณ์ทำความสะอาด


ทพ.อาคม กล่าวว่า ผู้ประกอบการต้องจัดสถานที่ เช่น นวดฝ่าเท้าต้องห่างกัน 1.5 เมตร จัดสถานที่สำหรับเก็บผ้า อุปกรณ์ผู้รับบริการที่มิดชิดปลอดภัย ห้องให้บริการนวดต้องเป็นห้องเดี่ยว 1 คนต่อห้อง การชำระเงินส่งเสริมให้ชำระเงินแบบออนไลน์ จัดระบบระบายอากาศที่ดี โดยผู้ดำเนินการร้านสปา จะต้องดูแลความสะดวก ความเรียบร้อย มาตรฐานสถานที่ให้เกิดความปลอดภัย ส่วนร้านนวดไม่มีผู้ดำเนินการ อาจให้พนักงานต้อนรับเป็นผู้ดำเนินการแทนไปก่อน เช่น สอบถามบันทึกข้อมูลสุขภาพขั้นพื้นฐาน คัดกรองผู้รับบริการ พนักงาน รักษาการเว้นระยะห่าง การแจกหน้ากากอนามัยกรณีลูกค้าไม่ได้เตรียมการ ดูแลอุปรณ์เครื่องมือต่างๆ

ทพ.อาคม กล่าวว่า ด้านผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมเฟซชีลด์หรือแว่นตาป้องกันทุกครั้ง ไม่ชวนพูดคุย พูดเท่าที่จำเป็น สังเกตอาการผู้มารับบริการ มีไอ น้ำมูกหรือไม่ ก็ต้องระมัดระวัง หากมีอาการก็ต้องหยุดการให้รับบริการ อุปกรณ์เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่มีการให้บริการ ส่วนแม่บ้านต้องดูแลสุขอนามัยตนเอง สวมหน้ากาก หมวกคลุมผม แว่นตาหรือเฟซชีลด์ ดูแลความสะอาดตู้เตียงห้องต่างๆ และเรื่องขยะต้องเก็บอย่างเหมาะสม ไม่เป็นภาระสังคมและสิ่งแวดล้อม ส่วนปลอกหมอน ผ้าปูเตียง ห้ามสะบัดเด็ดขาด เพราะจะเกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ ต้องม้วนออกจากตัวเอง ขณะที่ผู้รับบริการ ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือก่อนและหลังใช้บริการ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำสถานประกอบการ และจะต้องคัดกรองระมัดระวังลูกค้าชาวต่างชาติเป็นพิเศษ


ด้าน น.ส.สุวภรณ์ แนวจำปา ผู้อำนวยการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สบส. กล่าวว่า ผู้ประกอบการสปาและนวด จะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดได้ที่เว็บไซต์ สบส. และเข้าสู่ระบบเพื่อกรอกข้อมูลสถานประกอบการให้ครบถ้วน และทำแบบประเมินตนเอง และส่งเข้ามาในระบบ พนักงานจะตรวจสอบว่าผ่านหลักเกณฑ์ สบส.หรือไม่ ถ้าไม่ผ่านจะกดปฏิเสธ ให้สถานประกอบการปรับปรุงแก้ไข และประเมินตัวเองเข้ามาใหม่ แต่เมื่อผ่านจะกดยอมรับ ร้านสามารถพิมพ์ใบ e-Certificate เพื่อติดไว้ที่สถานประกอบการ และจะต้องรายงานประเมินผลทุก 7 วัน หรือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นอกจากนี้ ต้องลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะเพื่อพิมพ์คิวอาร์โคดให้ผู้รับบริการได้สแกนเพื่อเช็กอินเช็กเอาต์ด้วย

เมื่อถามถึงกรณีพนักงานนวดคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศแล้วพบติดเชื้อจำนวนมาก ทพ.อาคม กล่าวว่า ในส่วนของผู้ให้บริการนวดในไทยขึ้นทะเบียนแล้วมี 1.5 แสนคน จะมีการคัดกรองตรวจผู้ให้บริการทุกคน ว่า มีอุณหภูมิร่างกายที่ไม่สบายหรือไม่ ส่วนคนไทยที่เป็นพนักงานนวดต่างชาติแล้วกลับมา จะมีการกักตัวก่อน 14 วัน ตามมาตรการรัฐ และตรวจสุขภาพว่ามีอาการป่วยมีเชื้อหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่เป็นพาหะ อย่างไรก็ตาม แม้มีอาการป่วยหรือไม่สบายเล็กน้อย และอาจไม่ใช่โควิด ก็จะไม่ให้เป็นผู้ให้บริการ เพราะเราต้องคำนึงความปลอดภัยประชาชน และเป็นการยกระดับร้านนวดของไทยให้ทั่วโลกยอมรับ เนื่องจากทั่วโลกจับตามองเราหลังรับเป็นมรดกโลกแล้ว ต้องช่วยกันที่จะให้ร้านนวดเป็นสถานที่ปลอดภัย สร้างความมั่นใจคนไทยและต่างชาติ

เมื่อถามถึงคลินิกเวชกรรมเสริมความงามในการคลายล็อกเฟสสาม ทพ.อาคม กล่าวว่า เฟสสามนี้สามารถให้บริการในทุกส่วน แต่ผู้เข้ารับบริการต้องดูว่ามีร่างกายแข็งแรง ไม่มีความเสี่ยง เมื่อเข้าไปรับบริการ ต้องทำตามมาตรการสถานเสริมความงาม ตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ตอนนี้สามารถเสริมความงามใบหน้าได้แล้ว อย่างไรก็ตาม คลินิกเวชกรรมความงามต้องประเมินตนเองตามมาตรการหลักของภาครัฐ เช่น การสวมหน้ากาก มีเจลแอลกอฮอล์ ต้องเว้นระยะห่าง ให้บริการแบบนัดหมาย ใช้เวลาบริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง ต้องรักษาคามสะอาดระหว่างการทำหัตถการแต่ละอย่าง








กำลังโหลดความคิดเห็น