สธ.เร่งติดตามคนสัมผัสผู้ป่วยโควิด 2 รายใหม่ หลังติดเชื้อในชุมชน ทั้ง รพ. ร้านตัดผม และห้าง รวมถึงติดตามครอบครัวที่ใกล้ชิด เพื่อตรวจหาเชื้อ ขอตรวจสอบใช้ “ไทยชนะ” หรือไม่ หากมีจะตรวจสอบสะดวกขึ้น หวั่นหากมีผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนอาจเป็นระลอก 2 มาแล้ว ต้องเข้มมาตรการ แต่ไม่ปิดกิจการหากคุมได้ หวังลดผลกระทบ
วันนี้ (21 พ.ค.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย ซึ่ง 2 ราย มีประวัติเสี่ยงไปสถานที่ชุมชน คือ โรงพยาบาล ร้านตัดผมย่านประชาชื่น และห้างสรรพสินค้า จ.ชัยภูมิ ว่า 2 รายนี้ ถือเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ สัมพันธ์กับกิจการที่ผ่อนปรนระยะที่ 1 และ 2 โดยเป็นเรื่องที่คาดการณ์ว่า อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเมื่อไรที่การ์ดตก ล้างมือไม่ตลอด สวมหน้ากากไม่ตลอด ไปสถานที่ชุมชนโดยไม่จำเป็นย่อมมีความเสี่ยง อีกทั้ง 2 รายนี้ ไม่มีสัมพันธ์กับผู้ป่วยก่อนหน้า เกิดจากช่วงเปิดกิจการ จึงต้องฝากว่า ขณะนี้แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มหลักเดียว เราก็ไม่อยากเห็นตัวเลขมากกว่านี้
เมื่อถามถึงการสอบสวนโรค ผู้สัมผัสเสี่ยงรายอื่นๆ จาก 2 เคสนี้ นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า การสอบสวนโรคต้องอาศัยเวลา เบื้องต้นหลังพบยืนยันผู้ป่วย ทีมสอบสวนโรคจะดูว่า ผู้ป่วยพูดคุยได้หรือไม่ เพื่อสอบประวัติเบื้องต้น ซึ่งก็พอทราบไทม์ไลน์ โดยผู้ป่วยชายอายุ 72 ปี ที่ไปโรงพยาบาลเพื่อทำซีทีสแกน ไปร้านตัดผม ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือไม่อยู่ที่ความจำของผู้ป่วย ก็ขอดูก่อนว่า ทีมสอบสวนโรคได้ข้อมูลแล้วและลงไปพื้นที่ คือ โรงพยาบาลอะไร ห้วงเวลาใด สัมผัสใกล้ชิดกับใครบ้าง ใครเสี่ยงต่ำ เสี่ยงสูง ก็ต้องวิเคราะห์ออกมา หรือไปร้านตัดผมอะไร นอกจากช่างตัดผมแล้ว จริงๆ ก็ต้องไม่มีคนอื่น เพราะเราไม่ได้ให้มานั่งรอที่ร้านตัดผม หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจยังจำไม่ได้ หรือคนในบ้าน ละเลยไม่ได้ คนใกล้ชิดที่สุดบุตรหลาน ผู้ดูแล ก็ต้องสัมภาษณ์เก็บตัวอย่างตรวจ เพื่อให้ชัดเจนว่าใครบ้างมีโอกาสรับเชื้อ จะจำกัดพิกัดได้มากขึ้นหรือไม่ หากโรงพยาบาล ร้านตัดผมมีการลงทะเบียนไทยชนะ และหากผู้ป่วยมีการเช็กอิน ก็จะมีเวลาในการเช็กเอาท์ ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้ว่าใครบ้างเป็นกลุ่มเสี่ยงในห้วงเวลาที่ทำภารกิจ ก็จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาตรวจ
“อาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกิจการผ่อนปรนก็ได้ อาจเกี่ยวกับคนที่บ้านก็ได้ เร็วเกินไปที่จะตัดสิน จะมีผู้ป่วยเกิดขึ้นอีกหรือไม่ก็ต้องติดตามตัวเลขต่อไป 2 รายนี้มาปรากฏตัวมาพบที่ รพ. แต่ยังมีอีกหรือไม่ที่ไม่มาพบที่ รพ.ก็ต้องคอยดูต่อไป ถ้าเป็นกลุ่มก้อนชัดเจน แสดงว่า ระลอก 2 มาแล้ว และคงต้องมีมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้ในการคัดกรอง เฝ้าระวัง ควบคุมโรค จะถึงขั้นหยุดกิจการบางอย่างหรือไม่ ต้องดูข้อมูล เราอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้หรือไม่ หากคุมได้การเปิดแล้วไปปิดก็คงไม่ทำ ประชาชนต้องช่วยกันเพื่อให้เปิดกิจการต่อได้และปลอดภัยจากโรคโควิด” นพ.อนุพงศ์ กล่าว