“อัศวิน” เตรียมประชุมพร้อมคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด กำหนดมาตรการควบคุมในพื้นที่ให้เหมาะสม หลังรัฐบาลมีมติให้ผ่อนปรนเปิดสถานที่เพิ่มเติม-ปรับเปลี่ยนเวลาเคอร์ฟิว หาแนวทางป้องกันการระบาดโควิด-19
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 42/2563 ซึ่งมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล กอ.รมน.กทม. สำนัก ร่วมประชุม และผู้แทนกลุ่มเขต ทั้ง 6 กลุ่มเขตได้ร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล Teleconference ด้วย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ (15 พ.ค.) ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยกรุงเทพมหานครไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง 4 วันแล้ว ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รัฐบาลมีมติให้ผ่อนปรนมาตรการเปิดสถานที่เพิ่มเติม และปรับเปลี่ยนเวลาเคอร์ฟิว โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัดกำหนดมาตรการควบคุมในพื้นที่ให้เหมาะสมนั้น ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค. 63) กรุงเทพมหานครจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดมาตรการควบคุมดูแลสถานที่แต่ละแห่งอีกครั้ง
ในที่ประชุม สำนักงานการต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 กรุงเทพมหานครได้รับมอบหน้ากากอนามัย N95 ยี่ห้อ 3M รุ่น 9132 จำนวน 3,000 ชิ้น จากนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อให้สำนักอนามัยได้นำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยต่อไป นอกจากนี้ นครเซี่ยงไฮ้แจ้งความประสงค์บริจาคเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันตนเอง (Personal Protection Equipment: PPE) จำนวน 400 ชุด และ หน้ากากป้องกัน (Facial Protection) จำนวน 1,500 ชิ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อส่งมอบสิ่งของ
ทั้งนี้ ที่ประชุมกำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการตรวจพื้นที่ และสถานประกอบการ และกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการของกรุงเทพมหานครที่กำหนดอย่างเคร่งครัด มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 โดยมีสาระสำคัญ คือ การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ได้นั้น คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานครจะพิจารณาก่อนว่ามัสยิดใดมีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด อาทิ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การลงทะเบียน และการคัดกรองผู้มาร่วมพิธี โดยสำนักงานเขตพื้นที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมดังกล่าว ก่อนเปิดให้ละหมาดได้