กรมอนามัยเผยผลประเมิน “ร้านตัดผม” ไม่ผ่านเกณฑ์ 63.8% ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยม 27.18% ส่วนใหญ่ไม่ผ่านจากการไม่ได้บันทึกชื่อ โทรศัพท์ผู้มารับบริการ 43% การป้องกันโรคยังทำได้ดี ส่วนร้านสปา ตัดขน รับเลี้ยงสัตว์ ไม่ผ่านเกณฑ์ 53% ทำดีเยี่ยม 40% ย้ำยังไม่อนุญาตตัดเล็บ นวดหน้า ให้รอผ่อนปรนระยะ 2 ลุ้นเปิดได้ฟูลออปชัน
วันนี้ (13 พ.ค.) นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการประเมินผลกิจการผ่อนปรนในส่วนร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม และร้านอาบน้ำ ตัดขนสัตว์เลี้ยง ว่ากิจการทั้ง 2 ประเภท เราตรวจหลักๆ คือ สุขลักษณะ การเว้นระยะห่าง ความสะอาดทั่วๆ ไปด้านสุขาภิบาลโดยรวม โดยผลการประเมินเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 2 กิจการ ผลการประเมินดูไม่ค่อยดีนัก พบว่า ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม ไม่ผ่านเกณฑ์ถึง 63.08% ผ่านเกณฑ์พื้นฐาน 9.74% ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยม 27.18% แต่ที่ตกเกณฑ์อาจจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยน้อยๆ แต่การดูแลภาพรวมไม่ให้เกิดการระบาดยังทำได้ดีอยู่ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้คำแนะนำ ส่วนร้านสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากเลี้ยงสัตว์ พบไม่ผ่านเกณฑ์ 53% ผ่านเกณฑ์พื้นฐาน 7% ผ่านเกณฑ์ดีเยี่ยม 40% ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
“อย่างที่บอกว่าไม่ผ่านเกณฑ์ กรณีร้านตัดผม เปิดได้เฉพาะเรื่องการตัด สระ ไดร์ แต่เงื่อนไขบางอย่างที่ผู้ประกอบการเองอาจไม่สะดวกนัก เช่น เรื่องบันทึกรายชื่อ ที่อยู่ โทรศัพท์ ผู้มารับบริการทุกราย ก็ถือว่าตกเกณฑ์ไปเยอะถึง 43% ซึ่งตรงนี้สำคัญในแง่การสอบสวนโรคกรณีพบเชื้อ นอกนั้นไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องจุดคัดกรองพนักงานหรือผู้ให้บริการและผู้มารับบริการ 30.26% และกรณีผู้ให้บริการสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยและแผ่นใสครอบหน้า รวมทั้งเสื้อคลุมที่สะอาดอีก 15.38% แต่ในเรื่องสุขอนามัยก็ถือว่าทำออกมาได้ดี” นพ.ดนัยกล่าว
นพ.ดนัยกล่าวว่า ส่วนกรณีร้านอาบน้ำ ตัดสัตว์ ที่ตกเกณฑ์จะเป็นในเรื่องการคัดกรองพนักงานผู้ให้บริการและผู้รับบริการ 25.97% สวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า 16.88% และการจัดที่ยืนสำหรับลูกค้าที่รอชำระเงินที่ต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร 16.88% แต่โดยรวมก็ถือว่าได้รับความร่วมมือดี ส่วนเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ผ่าน ซึ่งเป็นมาตรการบางอย่างนั้นหากได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็จะทำให้ครอบคลุมมาตรการให้ดียิ่งขึ้น
“โดยรวม 2 กิจการ เป็นความร่วมมือที่ดี หวังว่าที่ยังทำไม่ผ่าน ถ้ารับความร่วมมือที่ดี โดยเฉพาะประเด็นเรื่องมาตรการบางอย่างของการเสริมสวย การตัดผม อาจอนุญาตเปิดกิจการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากตัด สระ ไดร์ได้ แนวโน้มก็มีดอกาสนำเสนอข้อมูลไปให้ ศบค.เพื่อพิจารณาลำดับต่อไป” นพ.ดนัยกล่าว
เมื่อถามกรณีร้านตัดผมที่มีการทำเล็บ นวดหน้า หากมีการให้บริการถือว่าผิดหรือไม่ นพ.ดนัย กล่าวว่า ตามมาตรการผ่อนปรนถือว่าผิด แต่ข้อเท็จจริงสาระสำคัญที่อยากให้ทำแค่ตัด สระ ไดร์ อาจมีความเสี่ยงน้อยที่สุด กิจการที่อาจทำให้มีบาดแผล มีเลือดออก เช่น การโกน ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องโควิด-19 แต่โรคอื่นๆ ด้วย แต่มาตรการเหล่านี้ถ้าอดใจรออีกสักเล็กน้อย รอการประกาศระยะที่ 2 ในการผ่อนคลาย ขณะนี้มีแนวทางเป็นไปได้ในการดำเนินการกิจการแบบฟูลออปชันในการแต่งผม เสริมสวย แต่ยังจำเป็นต้องรักษาคุณภาพให้บริการ เรื่องการติดเชื้อ สุขาภิบาลต่างๆ โดยเฉพาะการทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้งหลังบริการแต่ละราย