สำเร็จแล้ว!! ชุด PPE แบบใช้ซ้ำ ได้ 20 ครั้ง ผ่านการรับรอง อย.แล้ว ทยอยส่งมอบ อภ. 4.4 หมื่นชุดภายในสิ้น พ.ค. ให้บุคลากรแพทย์ใช้ดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงน้อย-ปานกลาง “อนุทิน” ชี้ ช่วยประหยัดค่านำเข้าชุด PPE 1 หมื่น ล.บาท หลังประเมินต้องใช้ถึง 20 ล้านชุด จนกว่าจะจบโควิด อภ.เผย ชุดทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% กันน้ำได้ระดับ 2 ผลิตในไทยทั้งหมด เว้นนำเข้าเส้นใยรีไซเคิลจากไต้หวัน ระบุ ทำจากขวดน้ำ หากไทยพัฒนาระบบแยกขยะได้ดี จะทำเองได้ทั้งหมด สหรัฐฯ สนใจสั่งซื้อ
วันนี้ (8 พ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการพัฒนาชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ชนิดใช้ซ้ำได้ หรือ Reuseable Isolation Gown รุ่น “เราสู้” ว่า ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งหน้ากาก N95 และชุด PPE เป็นของหายาก ซึ่งเราพยายามหาเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยมาให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้เพื่อมีความมั่นใจในการทำงาน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า กว่าจะจบโควิด-19 อาจจะต้องใช้ชุด PPE ถึง 20 ล้านชุด มูลค่าถึง 1 หมื่นล้านบาท และยังต้องเสียค่ากำจัดชุดที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แต่จากการที่เราพัฒนานวัตกรรมชุด PPE แบบใช้ซ้ำได้ถึง 20 ครั้ง ตรงนี้จะช่วยประหยัดงบประมาณประเทศได้มาก ไม่ให้เงินไหลออก เงินยังหมุนเวียนภายในประเทศ ซึ่งงบ 1 หมื่นล้านบาท สามารถสร้างโรงงานวัคซีนได้เลย
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ชุด PPE ชนิดใช้ซ้ำนี้ ผ่านการทดสอบการกันน้ำในระดับ 2 สามารถนำมาใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ระดับเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง เช่น คัดกรองผู้ป่วย การเก็บตัวอย่างผู้ป่วย ฯลฯ ซึ่งพบว่าอัตราการใช้ชุด PPE ที่ผ่านมา 50% เป็นการดูแลระดับเสี่ยงน้อย-ปานกลาง ส่วน 50% เป็นคนไข้หนักที่ต้องใช้แบบชุดหมี ทั้งนี้ ชุด PPE ใช้ซ้ำนี้เราพิจารณาความปลอดภัย 3 อย่าง คือ 1. เนื้อผ้าทนแรงดันน้ำได้ระดับ 2 คือ ป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้มากกว่าหรือเท่ากับ 20 เซนติเมตรน้ำ 2. ตะเข็บเย็บสามารถทนแรงดันน้ำระดับ 2 เช่นเดียวกัน และ 3. สามารถใช้ซ้ำได้ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าใช้ได้ถึง 20 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกการทดสอบการซัก พบว่า ไม่ผ่าน เนื่องจากมีการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มและไม่ผ่านการอบร้อน ซึ่งในการซักนั้นจะต้องใส่โซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1% ในการฆ่าเชื้อด้วย แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับการผลิตชุด PPE ใช้ซ้ำนี้ เนื้อผ้าเป็นโพลีเอสเตอร์ 100% เคลือบสารกันน้ำเทฟลอน ซึ่งเส้นใยของผ้าเป็นเส้นใยรีไซเคิลจากขวดน้ำชนิดขวด PET 100% โดยพบว่า 1 ชุด ใช้ขวดน้ำ PET ขนาด 600 มิลลิลิตร (ซีซี) ประมาณ 14.5 ขวด โดยจำนวนชุด 44,000 ชุดต้องใช้ขวดประมาณ 638,000 ขวด อย่างไรก็ตาม เส้นใยรีไซเคิลนี้ได้นำเข้าจากไต้หวัน แล้วนำมาทอและตัดเย็บในบ้านเรา เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตเส้นใยรีไซเคิลจากขวดน้ำได้ เพราะมีปัญหาเรื่องระบบการคัดแยกขยะ จึงต้องนำเข้าซึ่งเส้นใยจากไต้หวันได้รับการรับรองมาตรฐานการรีไซเคิลระดับโลก ทั้งนี้ หากกรมอนามัยหรือภาครัฐดำเนินการเรื่องแยกขยะได้ จัช่วยให้ครบวงจรจริงๆ และสามารถพัฒนาต่อในประเทศเองได้ทั้งหมด
นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ อภ.ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างจาก 13 บริษัทที่ผลิตแล้ว รวม 44,000 ตัว ตามสต๊อกผ้าที่มีอยู่ตัวหนึ่ง 500 บาท ใช้ได้ 20 ครั้ง ตกครั้งละ 25 บาท ก็ถือว่าช่วยประหยัดเงิน ลดขยะที่เกิดขึ้นได้เยอะ และช่วยการจ้างงานภายในประเทศ คาดว่า จะส่งได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ทั้งหมด สำหรับศักยภาพในการทอผ้า เราสามารถทอได้ 1 ล้านหลาต่อเดือน ตัดเย็บเป็นชุดได้ 3 แสนชุดต่อเดือน และเราจะพัฒนาต่อให้เป็นชุดป้องกันระดับ 4 ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วยหนักได้ด้วย ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในการพัฒนาการตรวจให้ได้ตามมาตรฐาน
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า อย.ได้ตรวจมาตรฐาน 2 เรื่อง คือ 1. สถานที่ผลิต ซึ่งต้องมีคุณภาพทั้งสถานที่ กระบวนการผลิต เครื่องมือ ซึ่งผ่านทั้ง 13 บริษัท และ 2. ชุดที่ผลิตออกมามีมาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งขณะนี้ก็ผ่านมาตรฐานทั้งหมด
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการ อภ. กล่าวว่า การส่งมอบชุดให้แก่ อภ.นั้น จะทยอยจัดส่งทุกสัปดาห์ คือ วันที่ 7 พ.ค. วันที่ 15 พ.ค. วันที่ 22 พ.ค. และวันที่ 31 พ.ค. ก็จะครบทั้งหมด 44,000 ชุด
นายพงษ์ศักดิ์ อัสกุล กรรมการบริหารสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า จากความสำเร็จในการผลิตชุด PPE ที่เกิดขึ้น ทำให้มีความตั้งใจพัฒนา การผลิตให้เป็นในระดับอาเซียน และขณะเดียวกัน ทางประเทศสหรัฐอเมริกา และ ออสเตรีย ก็ได้มีเจรจาขอสั่งซื้อ โดยสหรัฐฯ ขอซื้อ 500 ชุด จึงอยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนเครื่องทดสอบแรงดันน้ำ เพื่อดูประสิทธิภาพอยู่ในระดับไหน