สธ.ชวนผู้ประกอบการเข้าแพลตฟอร์ม THAISTOPCOVID เช็กลิสต์ ดูแนวทางปรับตัว ประเมินความพร้อมก่อนเปิดบริการ รองรับหากผ่อนคลายมาตรการ ย้ำ ต้องปรับตัว 3 ด้าน ผู้ให้บริการต้องป้องกันตนเอง จัดสถานที่ทำความสะอาด จัดที่ล้างมือ กำหนดจุดเข้าออก กำหนดจำนวนคนเข้าให้เหมาะสมพื้นที่ เว้นระยะห่างได้
วันนี้ (25 เม.ย.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการรองรับการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีการพูดคุยแนวทางและการเตรียมการ ว่า ประเทศไทยอาจเริ่มมีการผ่อนปรน แต่กระบวนการทำงานในเรื่องนี้ต้องรอบคอบในหลายมิติ ทั้งนี้ สถานประกอบการแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามความเสี่ยง คือ 1. เสี่ยงต่ำ คือ สถานที่เปิดกลางแจ้ง รูปแบบตัวบริการไม่มีคนมารวมกลุ่มหนาแน่น 2. เสี่ยงปานกลาง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปิด ทำให้คนเข้ามาอยู่รวมกลุ่มกันบ้าง แต่กิจกรรมภายในไม่ได้มีการมารวมกลุ่มกัน ใกล้ชิดกัน หรือปรับรูปแบบบริการบางอย่างเพื่อควบคุมระยะห่างได้ และ 3. เสี่ยงสูง พื้นที่ปิดชัดเจน ระบายอากาศ การอยู่ใกล้ชิดกัน มีกิจกรรมร่วมกันเวลายาวนาน อาจจำเป็นต้องพิจารณาเป็นพื้นที่ปิดต่อไป
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อ คือ 1. ผู้ประกอบกิจการต้องดูพื้นที่ตัวเอง ทำอย่างไรให้พนักงานทุกคนมีการปกป้องตัวเอง ใช้หน้ากากทุกครั้ง มีการเช็ดทำความสะอาด มีสุขอนามัยส่วนตัว คนไหนเจ็บป่วยต้องรายงานไม่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ 2. การดูแลสถานที่ เดิมมีประกาศ สธ.ควบคุมกำกับการดูแลความสะอาดอยู่แล้ว แต่สถานการณ์โควิดการดูแลความสะอาดต้องเพิ่มความถี่มากขึ้น รอบการทำความสะอาด จุดสัมผัสร่วมต้องทำความสะอาดสม่ำเสมอ จัดที่ล้างมือให้เพียงพอ และการทำเส้นทางเข้าออก เพื่อให้เกิดการจัดบริการที่ชัดเจนขึ้น
3. ผู้ใช้บริการต้องปกป้องตัวเอง ต้องเตรียมอุปกรณ์ดูแลตัวเองให้พร้อม และให้เจ้าของกิจการคำนึงว่า ถ้าผู้รับบริการเข้ามาในพื้นที่ ต้องให้บริการคัดกรอง สื่อสาร หรือกำกับ เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น เช่น จุดเข้ามีระยะห่างพอสมควร แต่พอเข้าไปด้านในไปรวมกลุ่มกันก็จะเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงปานกลางอาจต้องกำหนดเป็นพื้นที่ เช่น ร้านอาหาร 4 ตารางเมตร ควรมีคนอยู่ได้กี่คน ถ้ามีพื้นที่เท่านี้เดิมเคยจัดโต๊ะแบบนี้ก็ต้องปรับใหม่ให้เหมาะสม และลดระยะเวลาการอยู่ในพื้นที่ การจัดรอบ การเว้นระยะให้มีการพัก จัดเรื่องการระบายอากาศให้ดี ถ้าจำเป็นอาจต้องลงทะเทียนผู้รับบริการ หากมีการติดเชื้อขึ้นจะจำกัดวงคนที่มีการสัมผัสได้ทันที
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า กรมอนามัยได้ทำแพลตฟอร์ม “THAISTOPCOVID” ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ประกอบการ ทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านเสริมสวย ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ได้เข้ามาประเมินความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ โดยเช็กลิสต์ตัวเองว่า ทำได้ตามมาตรการที่กำหนดหรือไม่ ส่วนประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการได้ว่า สามารถปฏิบัติได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่ควรเป็นหรือไม่ ทั้งนี้ เราจะปักหมุดพื้นที่สถานประกอบกิจการที่มีความพร้อม สร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะใช้บริการในพื้นที่ผ่อนปรนได้ปลอดภัย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ อย่างกิจการที่อนุญาตให้เปิด เช่น ร้านสะดวกซื้อ พบว่า จัดให้มีจุดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนเข้า 100% ทุกคนเข้ามาในร้านใส่หน้ากาก 99% มีการจัดหาหน้ากากเตรียมไว้ให้แก่คนที่ไม่ได้ใส่ 98% อบรมให้ความรู้พนักงาน 96% จัดการทางกายภาพเพื่อให้เกิดระยะห่าง 1.5-2 เมตร 95% ส่วนตลาดเปอร์เซ็นต์ไม่ต่างกันมาก
“ขณะนี้กำลังเตรียมร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ถ้าอยากเดินหน้าต่อต้องขอให้เข้ามาในแพลตฟอร์ม เพื่อประเมินตนเองและดูว่าสถานประกอบกิจการแต่ละอย่างว่าจะต้องปรับอะไรบ้าง เพื่อให้มั่นใจจะได้เดินหน้าต่อได้” พญ.พรรณพิมล กล่าว
