อภ. เพิ่มกำลังผลิตยาโรคเรื้อรังขึ้น 30% ใน เม.ย. และเพิ่มอีก 50% ใน พ.ค. มั่นใจยาไม่ขาดแน่ หลัง รพ.ทยอยจ่ายยาล่วงหน้า 6 เดือน ลดแออัด รพ. ป้องกันแพร่เชื้อโควิด-19 ขอ รพ.บริหารจัดการจัดสรรยาให้เหมาะสม
วันนี้ (15 เม.ย.) ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า จากปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้หลายประเทศได้รับผลกระทบและใช้มาตรการปิดประเทศ รวมถึงประเทศที่เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบยา เช่น จีน อินเดีย อเมริกา และประเทศแถบยุโรป ทำให้เกิดปัญหาในการจัดส่งวัตถุดิบยาและบรรจุภัณฑ์ ขณะที่หลายโรงพยาบาลเริ่มใช้นโยบายจ่ายยาโรคเรื้อรังล่วงหน้า 6 เดือน เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดความเสี่ยงแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้โรงพยาบาลมีการสำรองยามากกว่าปกติ ขณะเดียวกัน ต้องเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนยาจำเป็นที่ต้องใช้รักษาโรคโควิด-19 ใน 5-6 รายการด้วย ทำให้ช่วงแรกส่งผลกระทบต่อการผลิตและสำรองยาบางรายการ
ภญ.มุกดาวรรณ กล่าวว่า เดิมในภาวะปกติ อภ.จะมีแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการผลิตไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งอาจมีวัตถุดิบบางรายการต้องกำกับดูแลเป็นพิเศษ โดยจะมีการทยอยผลิตเป็นยาสำเร็จรูปสำรองไว้ในคลังในจำนวนที่ผู้ป่วยสามารถใช้ได้ 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย เมื่อเริ่มมีสถานการณ์โควิด-19 อภ.ได้ปรับแผนการผลิตตั้งแต่ปลาย ม.ค.มาอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นกลุ่มยาจำเป็นโรคเรื้อรัง โดยเร่งให้มีการส่งมอบวัตถุดิบและอุปกรณ์การผลิตต่างๆ เร็วขึ้น หากวัตถุดิบบริษัทไหนติดขัดเรื่องการส่งมอบ จะทำการจัดซื้อจากแหล่งวัตถุดิบแห่งใหม่ 2-3 แห่ง ที่ได้รับการตรวจรับรองคุณภาพแล้ว เพื่อนำมาใช้ในการผลิตได้ทันและเพียงพอต่อความต้องการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งเครื่องบรรจุยาลงแผงอัตโนมัติความเร็วสูงจากประเทศเยอรมนีอีกหลายเครื่อง
ภญ.มุกดาวรรณ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ได้แสวงหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมอีกหลายแห่ง เช่น ยาซิมวาสแตตินใช้ลดระดับคอเลสเตอรอล ชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด ขณะนี้มีแหล่งวัตถุดิบจำนวน 5 ราย ในอินเดีย อภ.เพิ่มกำลังผลิต จาก 56 ล้านเม็ด/เดือน เป็น 62 ล้านเม็ด/เดือน, ยาแอมโลดิพีน รักษาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ มีแหล่งวัตถุดิบ 3 ราย ในอินเดีย อภ.เพิ่มกำลังผลิตจาก 50 ล้านเม็ด/เดือน เป็น 75 ล้านเม็ด/เดือน ส่วนยาเมทฟอร์มินใช้รักษาโรคเบาหวาน อภ.เพิ่มกำลังผลิตจาก 75 ล้านเม็ด/เดือน เป็น 106 ล้านเม็ด/เดือน
ยาลอซาร์แทน ใช้ลดความดันโลหิตที่ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีแหล่งวัตถุดิบ จำนวน 3 ราย คือ จีน 1 ราย และอินเดีย 2 ราย กำลังผลิตเป็น 27 ล้านเม็ด/เดือน ยาต้านไวรัสเอดส์ทั้ง 22 รายการ นั้น ได้เพิ่มกำลังการผลิตทุกรายการด้วยแล้วเช่นกัน โดยในภาพรวมแล้ว คาดว่า เม.ย. อภ.จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เฉลี่ย 30% และตั้งแต่ พ.ค.เป็นต้นไป จะเพิ่มกำลังการผลิตยาจำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้ได้ถึง 50%
“อภ.ไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ของวัตถุดิบที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนว่าจะยุติหรือเบาบางลงเมื่อไร จึงได้ทำการหาแหล่งวัตถุดิบแหล่งใหม่สำรองเพิ่มเติมไว้อย่างต่อเนื่องแล้ว มั่นใจได้ว่า อภ.ยังคงสามารถผลิตยาได้ตามความต้องการและคงราคายาไว้ตามเดิม แม้สถานการณ์ต่างๆ จะไม่เอื้ออำนวยมากนัก และผู้ป่วยโรคเรื้อรังจะยังคงมียาใช้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือโรงพยาบาลต่างๆ ช่วยบริหารจัดการและจัดสรรทยอยส่งยาให้ผู้ป่วยตามรอบการรักษา สอดคล้องกับปริมาณยาที่ อภ.จัดส่งไปสำรองทุก 1-2 เดือน โดยจัดส่งยาให้ผู้ป่วยทางไปรษณีย์ ซึ่ง สปสช. ได้จัดงบชดเชยให้หน่วยบริการเพิ่มเติมในอัตราไม่เกิน 50 บาท/ครั้ง หรือโครงการรับยาใกล้บ้าน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมียาใช้อย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์นี้” ภญ.มุกดาวรรณ กล่าว